หญิงหนิง พราววลี
|
Permalink: # นิทานไทยคำกลอน # * ยายกับตา *
# นิทานยายกับตา (ปลูกข้าว) # หมายเหตุ : นิทานเรื่องนี้คัดลอกมาจากหนังสือนิทานเรื่องยายกับตา (นิทานคำกลอนไทยเรื่องยาวที่แต่งและพิมพ์เมื่อพ.ศ.๒๔๙๒โดยโรงพิมพ์ราษฎร์เจริญ(วัดเกาะ) มี ๔ เล่มคำกลอน ไม่ปรากฏชื่อผู้แต่ง)โดยสำนักพิมพ์เรือนปัญญา พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ ศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์และภูมิปัญญาไทย (ผู้รวบรวม) นิทานยายกับตานั้น มี ๒ เรื่องคือ นิทานยายกับตาปลูกถั่วปลูกงาเรื่องหนึ่ง และนิทานยายกับตาปลูกข้าวเรื่องหนึ่ง ล้วนเป็นนิทานที่นิยมเล่าให้เด็กไทยฟัง ซึ่งผู้เล่าสามารถสอดแทรกให้มีคติสอนใจ และเล่าให้สนุกสนานได้ นิทานนี้ใช้เล่าสอนติดต่อกันมาช้านาน และนิทานเรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ประทับใจและอยากอนุรักษณ์และสืบสานไว้ค่ะ (เกริ่น..) ขอสาธกยกนิทานมาขานกล่าว เล่าเรื่องราวแสนสนุกสุขหรรษา อนุรักษ์มิสูญหายยายกับตา ภูมิปัญญาของคนไทยไปกับกาล
โดยคัดลอกทุกถ้อยเรียงร้อยบท มิผันพจน์ยึดถือมาสื่อสาร ตกถึงคนรุ่นหลังดั่งตำนาน ด้วยเชิงชาญเชิงชั้นบรรพชน
รู้ความหมายชัดเจนเน้นเป็นหลัก สื่อลายลักษณ์คำกลอนสอนเหตุผล แทรกสนุกทุกอย่างช่างแยบยล เพื่อให้คนมีศีลธรรมประจำใจ
หญิงหนิง พราววลี ( คัดลอกและนำเสนอเพื่อร่วมอนุรักษ์ส่งเสริมคุณค่าภูมิปัญญาไทย)
* ยายกับตา เล่ม ๑ *
แว่นแคว้นแดนเมืองพาราณสี มิได้มีหญิงชายมากรายใกล้ เที่ยวเก็บเลือกมันเผือกในกลางไพร อันโภยภัยนั้นไม่มีมาบีฑา วสันตฤดูซึ่งหน้าฝน ทั้งสองคนผัวเมียก็หรรษา เอาจอบเสียมเตรียมไว้แล้วไคลคลา ขึ้นทำนาอยู่บนยอดคีรีวัน จนข้าวงอกออกรวงเป็นพวงพุ่ม ก็ชื่นชุ่มฝนชะให้เฉิดฉัน ระเหยหอมกลิ่นรื่นทุกคืนวัน แล้วผลัดกันขับนกบนคีรี ฯ (มีต่อ - )
รายนามผู้เยี่ยมชม : ลิตเติลเกิร์ล, พรานไพร, กร กรวิชญ์, ลมหนาว ในสายหมอก, ฟองเมฆ, รพีกาญจน์, Black Sword, ปลายฝน คนงาม, น้ำหนาว, ธนเดช, กอหญ้า กอยุ่ง, ตูมตาม, หนูหนุงหนิง, ขวัญฤทัย (กุ้งนา), มยุเรศ เมรี, ก้าง ปลาทู, เนื้อนาง นิชานาถ, rattanatrai rattanajan, มนชิดา พานิช
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หญิงหนิง พราววลี
|
Permalink: Re: # นิทานไทยคำกลอน # * ยายกับตา *
# นิทานยายกับตา (ปลูกข้าว) #
จะกล่าวถึงเจ้าตรึงตรัยสวรรค์ เอราวัณช้างทรงองค์โกสีย์ ให้ปั่วป่วนหวลหอมข้าวสาลี เห็นจะมีรสชาติประหลาดครัน จะรอรั้งยั้งหยุดก็สุดยาก จึงออกจากโรงรีขมีขมัน ถึงแดนดงลงนายายตาพลัน เอราวัณคชสารสำราญใจ เห็นข้าวรวงงวงอ้อมกระหวัดรัด แย่งสะบัดบริโภคตามวิสัย กลิ่นระรื่นยืนกินอร่อยใจ สว่างในไพรพงยังหลงเพลิน ฯ
ฝ่ายสองเฒ่าเจ้าของนาเมื่อสายัณห์ แกผลัดกันลงมาเหย้าริมเขาเขิน เวลาเช้าเฒ่าตื่นก็ขึ้นเนิน ค่อยดุ่มเดินตรงมาถึงนาตัว เห็นช้างเข้ากินข้าวอยู่กลางไร่ แกแลไปมิได้รู้ว่าหางหัว เห็นสาวงวงหกงาดูน่ากลัว แต่ตีนตัวรูปร่างเหมือนช้างไพร เห็นข้าวยับกลับหมุนหุนโมโห ชักพร้าโต้แกว่งโดดเข้าโลดไล่ ร้องเวยวายยายเหวยมาไวไว แกฉวยได้ปลายหางไม่วางมือ ยายได้ยินเสียงตาผวาวิ่ง หกล้มกลิ้งกลับลุกขึ้นวิ่งตื๋อ เห็นตาฉวยได้หางไม่วางมือ เข้ายุดยื้อช่วยผัวไม่กลัวตาย ฯ
ฝ่ายเอราวัณพาหนะท้าวตรีเนตร เมื่อเกิดเหตุกลางนาน่าใจหาย จะต่อแรงแทงทำให้จำตาย ก็คิดอายเทพเจ้าเหมือนเผ่าพาล มาทำผิดคิดฆ่าเจ้าของซ้ำ จะเกิดกรรมเวียนวงในสงสาร จะอยู่ให้ได้ใช้ทำงานการ แต่นานนานแกปล่อยจึงค่อยไป (มีต่อ - )
รายนามผู้เยี่ยมชม : ลิตเติลเกิร์ล, พรานไพร, กร กรวิชญ์, ลมหนาว ในสายหมอก, ฟองเมฆ, รพีกาญจน์, Black Sword, ปลายฝน คนงาม, น้ำหนาว, ธนเดช, กอหญ้า กอยุ่ง, ตูมตาม, หนูหนุงหนิง, ขวัญฤทัย (กุ้งนา), มยุเรศ เมรี, ก้าง ปลาทู, เนื้อนาง นิชานาถ, rattanatrai rattanajan, มนชิดา พานิช
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หญิงหนิง พราววลี
|
Permalink: Re: # นิทานไทยคำกลอน # * ยายกับตา *
# นิทานยายกับตา (ปลูกข้าว) #
ช้างพระอินทร์จินตนาแล้วยืนนิ่ง ไม่ไหวติงตาแกเข้าผลักไส ฝ่ายยายคว้าคร่าเอาเถาลัดดาไพร ทำปลอกใส่สี่เท้าคเชนทร เอาเชือกเกลียวเหนี่ยวไว้ให้ถนัด โยงกระหวัดกับต้นยางหว่างสิงขร แล้วผัวเมียสองรายังอาวรณ์ ดูกุญชรช้างพระอินทร์ไม่สิ้นแคลง ทั้งงวงงางงดงามเป็นสามเศียร ขาวเหมือนเขียนเจียวนะยายดูพรายแสง โอ้ช้างเผือกนี้เขาว่าราคาแพง แต่เรี่ยวแรงมันยังไรจึงไม่มี (มีต่อ - )
รายนามผู้เยี่ยมชม : พรานไพร, กร กรวิชญ์, ลมหนาว ในสายหมอก, ฟองเมฆ, รพีกาญจน์, Black Sword, ปลายฝน คนงาม, ลิตเติลเกิร์ล, น้ำหนาว, ธนเดช, กอหญ้า กอยุ่ง, ตูมตาม, หนูหนุงหนิง, ขวัญฤทัย (กุ้งนา), มยุเรศ เมรี, ก้าง ปลาทู, เนื้อนาง นิชานาถ, rattanatrai rattanajan, มนชิดา พานิช
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หญิงหนิง พราววลี
|
Permalink: Re: # นิทานไทยคำกลอน # * ยายกับตา *
# นิทานยายกับตา (ปลูกข้าว) #
ข้างยายเมียว่ามันเสียซึ่งสามหัว ไม่สมตัวงวงงาน่าบัดสี ดูแปลกช้างในดงกลางพงพี มันไม่ดีดอกหนาดูน่าชัง ท่านตาว่ามันเข้ามาทำอุกอาจ เอาผูกกราดให้มันเข็ดเมื่อภายหลัง ตรงเข้าจับช้างมิช้าละล้าละลัง ผูกไว้ยังยอดคีรีที่กลางนา ฯ
จะกล่าวกลับจับเรื่องถึงเบื้องบาท บรมนารถตรีเนตรเจ้าตรึงศา ครั้นสายแสงพระอาทิตย์ผิดเวลา ดูพระยาเอราวัณนั้นหายไป จึงแลเล็งเพ่งทิพนัยเนตร ตามขอบเขตเขาเขินเนินไศล เห็นตายายผูกพระยากุญชรไชย ก็แจ้งในทิพญาณอันชาญชิต เหตุทั้งนี้เพราะจะมีไปภายหน้า ด้วยยายตาถือสัตย์อันสุจริต จะไปช่วยอวยชัยเหมือนใจคิด แล้วแผลงฤทธิ์จากดาวดึงส์จร พอพริบตามาถึงยอดบรรพต พระทรงยศหยุดยืนยอดสิงขร นิมิตเหมือนชาวป่าพนาดอน ทำแบกคอนขอช้างมากลางไพร ค่อยย่องเหยาะเดาะเดินบนเนินเขา เห็นสองเฒ่ายายตาจึงปราศรัย นี่ช้างข้ายายตามาผูกไว้ ข้าตกใจตามหาบรรดาตาย ทั้งผัวเมียฟังสารนายควานช้าง ชี้มือพลางบอกไปดังใจหมาย ช้างออเจ้ากินข้าวเรามากมาย จนต้นตายเสียหมดไม่ปดเลย เจ้าของมีดีแล้วกูคอยหา เอาข้าวมาใช้กูออสูเอ๋ย แม้นไม่ใช้กูไม่ให้เอาไปเลย กูไม่เคยเห็นช้างเหมือนอย่างนี้ ( มีต่อ - )
รายนามผู้เยี่ยมชม : พรานไพร, ฟองเมฆ, กอหญ้า กอยุ่ง, Black Sword, กร กรวิชญ์, ปลายฝน คนงาม, ลิตเติลเกิร์ล, ตูมตาม, ลมหนาว ในสายหมอก, น้ำหนาว, หนูหนุงหนิง, ขวัญฤทัย (กุ้งนา), รพีกาญจน์, มยุเรศ เมรี, ก้าง ปลาทู, เนื้อนาง นิชานาถ, rattanatrai rattanajan, มนชิดา พานิช
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หญิงหนิง พราววลี
|
Permalink: Re: # นิทานไทยคำกลอน # * ยายกับตา *
# นิทานยายกับตา (ปลูกข้าว) #
อัมรินทร์ยินคำก็แจ้งจิต จำจะคิดล่อลวงทั้งสองศรี แม้นสัตย์แท้เราจะแก้ให้ได้ดี ท้าวโกสีย์ตรึกตราแล้วว่าพลัน อันข้าวปลาข้าจะหามาใช้ให้ ด้วยช้างได้กินแล้วจงผ่อนผัน ช้างของข้าท่านตาช่วยป้องกัน อย่าให้ปันผลัดเปลี่ยนกับใครไป ทั้งสองเฒ่ารับคำที่กำชับ พระอินทราลากลับเข้าป่าใหญ่ ด้วยทรงฤทธิ์คิดปองจะลองใจ พอเห็นไกลกลับแกล้งจำแลงกาย เป็นชายหนุ่มคุมทรัพย์มากลางป่า ทั้งเงินตราทองนากก็มากหลาย ทำเวียนวงตรงมาถึงตายาย ก็ภิปรายถามไต่เป็นไมตรี นี่ช้างใครใหญ่หลวงประหลาดนัก เป็นสามพักตร์เผือกผ่องละอองศรี ไอยราผิดชาติประหลาดดี ราคามีสักเท่าไรอย่าได้พราง ( มีต่อ - )
รายนามผู้เยี่ยมชม : พรานไพร, ฟองเมฆ, กอหญ้า กอยุ่ง, Black Sword, กร กรวิชญ์, ปลายฝน คนงาม, ลิตเติลเกิร์ล, รพีกาญจน์, ตูมตาม, ลมหนาว ในสายหมอก, น้ำหนาว, หนูหนุงหนิง, ขวัญฤทัย (กุ้งนา), มยุเรศ เมรี, ก้าง ปลาทู, เนื้อนาง นิชานาถ, rattanatrai rattanajan, มนชิดา พานิช
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หญิงหนิง พราววลี
|
Permalink: Re: # นิทานไทยคำกลอน # * ยายกับตา *
# นิทานยายกับตา (ปลูกข้าว) #
อันเงินทองของข้าเอามามาก ทั้งแหวนนากสารพัดไม่ขัดขวาง แล้วเทถุงเงินทองออกกองวาง จะซื้อช้างท่านจะเอาสักเท่าไร ฯ
ยายกับตาเห็นหน้าเจ้าหนุ่มน้อย ทั้งเพชรพลอยเงินทองอันผ่องใส จึงบอกตามความจริงทุกสิ่งไป มันไม่ใช่ช้างม้าของตายาย เข้ากินข้าวเจ้าของมารับใช้ กูจนใจที่จะเอาของเขาขาย เจ้าของมันจะว่ากูวุ่นวาย จะซื้อขายก็จงคอยเจ้าของมา พระอินทร์แปลงแกล้งว่านิจจาท่าน จะกลัวมันทำอะไรคุณตาขา ที่เงินทองของดีไม่ปรีดา เอาเถิดข้าจะให้แสนตำลึงทอง ยายกับตาว่าจนอยู่แล้วเจ้า เจ้าของเขาได้มาสั่งไว้ทั้งสอง จะกลับกลอกยอกย้อนเอาเงินทอง จะเสียครองสัตยาที่ว่าไว้ ( มีต่อ - )
รายนามผู้เยี่ยมชม : Black Sword, ลมหนาว ในสายหมอก, กร กรวิชญ์, รพีกาญจน์, น้ำหนาว, หนูหนุงหนิง, ฟองเมฆ, ขวัญฤทัย (กุ้งนา), ลิตเติลเกิร์ล, มยุเรศ เมรี, พรานไพร, ก้าง ปลาทู, ปลายฝน คนงาม, เนื้อนาง นิชานาถ, กอหญ้า กอยุ่ง, rattanatrai rattanajan, มนชิดา พานิช
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หญิงหนิง พราววลี
|
Permalink: Re: # นิทานไทยคำกลอน # * ยายกับตา *
# นิทานยายกับตา (ปลูกข้าว) #
สมเด็จเจ้าดาวดึงส์อุดมเดช เห็นวิเศษสัจจาจะหาไหน จึงแย้มเยื้อนเอื้อนอรรถดำรัสไป เราขอบใจยายตาสัจจาจริง ข้างฝ่ายตาก็ประเสริฐเลิศบุรุษ ยายก็สุดล้ำเลิศประเสริฐหญิง เราจะบอกออกความแต่ตามจริง ซึ่งวอนวิงหวังดูให้รู้ความ เรานี้หรือคือองค์ท้าวเจ้าตรีเนตร ศักดาเดชล้ำเลิศโลกทั้งสาม ท่านมีสัตย์จึงวิบัติให้แจ้งความ เรามาตามพระยาเอราวัณ อันข้าวปลายายตาอย่าทุกข์ร้อน จะอวยพรเพิ่มผลจนอาสัญ อันเม็ดข้าวที่ในนาของตานั้น จะช่วยกันเกี่ยวเอาสักเท่าไร ( มีต่อ - )
รายนามผู้เยี่ยมชม : Black Sword, ลมหนาว ในสายหมอก, กร กรวิชญ์, รพีกาญจน์, น้ำหนาว, หนูหนุงหนิง, ฟองเมฆ, ขวัญฤทัย (กุ้งนา), ลิตเติลเกิร์ล, มยุเรศ เมรี, พรานไพร, ก้าง ปลาทู, ปลายฝน คนงาม, เนื้อนาง นิชานาถ, กอหญ้า กอยุ่ง, rattanatrai rattanajan, มนชิดา พานิช
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หญิงหนิง พราววลี
|
Permalink: Re: # นิทานไทยคำกลอน # * ยายกับตา *
# นิทานยายกับตา (ปลูกข้าว) #
อย่ารู้หมดลดลงให้คงที่ จนชีวีสองเฒ่านั้นตักษัย ค่อยอยู่เถิดข้าจะลาท่านคลาไคล เจ้าตรึงตรัยกลายเห็นเป็นมัฆวาน ขึ้นทรงนั่งหลังพระยาเอราราช ก็โอภาสผิวพรรณในสัณฐาน เทพบุตรไอยราพาทะยาน สู่วิมานเมืองดาวดึงส์แดน ตากับยายใจหายเมื่อเห็นโฉม แลประโลมลับตาจนหน้าแหงน วิเวกวับลับเมฆเข้าเมืองแมน ทั้งสองแสนสุขเกษมให้เปรมใจ เขม้นมองท้องนาของตาเฒ่า เห็นเม็ดข้าวเรืองรองดังทองไสว ทั้งตายายแย้มยิ้มนึกอิ่มใจ ชวนกันไปลับเคียวเข้าเกี่ยวพลาง เสียงสวบสวบรวบรัดกระหวัดชัก แกเยื้องยักเปลี่ยนผัดไม่ขัดขวาง พอหยุดเคียวเหลียวหลังดูต้นทาง รวงสล้างแตกเติมเหมือนเดิมมา ทั้งสองเฒ่าเห็นข้าวไม่สิ้นสุด ก็ยั้งหยุดปลูกยุ้งบนยอดผา แกเกี่ยวข้าวเช้าค่ำนั้นร่ำมา ทั้งยายตาเบิกบานสำราญใจ ฯ
ขอยกเรื่องชาวเมืองพาราณสี พอถึงปีกรรมซัดให้ตัดษัย เกิดวิบัติฝนแล้งทุกแห่งไป ระกำใจไพร่ฟ้าประชาชน บ้างซูบผอมตรอมตรมระบมไข้ ทำนาในธรณีไม่มีผล เกิดวิบัติขัดข้องด้วยคนจน แต่ชาวชนชนล้มตายมากมายมี ฝ่ายชีพราหมณ์ไพร่ฟ้าประชาราษฎร์ ก็เกลื่อนกลาดเข้าสู่บุรีศรี ปรึกษาพร้อมยอมกันด้วยทันที ว่าธานีวิปริตผิดทำนอง (มีต่อ - )
รายนามผู้เยี่ยมชม : Black Sword, รพีกาญจน์, กร กรวิชญ์, ลิตเติลเกิร์ล, มยุเรศ เมรี, ลมหนาว ในสายหมอก, น้ำหนาว, พรานไพร, ก้าง ปลาทู, ฟองเมฆ, ปลายฝน คนงาม, ขวัญฤทัย (กุ้งนา), เนื้อนาง นิชานาถ, กอหญ้า กอยุ่ง, rattanatrai rattanajan, มนชิดา พานิช
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หญิงหนิง พราววลี
|
Permalink: Re: # นิทานไทยคำกลอน # * ยายกับตา *
# นิทานยายกับตา (ปลูกข้าว) #
เพราะกษัตริย์ขัติวงศ์ไม่ทรงสวัสดิ์ จึงเกิดเข็ญเป็นวิบัติถึงขัดข้อง แล้วพากันผันผายมาก่ายกอง ชุมนุมร้องทุกข์ราษฎร์ประกาศดัง ว่าดูราพระมหาจอมกษัตริย์ อันธานีมีวิบัติแต่ป่างหลัง บังเกิดเข็ญยากเย็นสุดกำลัง ท้าวไม่ตั้งทศมิตรราชการ ทั้งไร่นาฟ้าฝนก็แห้งแล้ง ไม่จัดแจงให้เป็นสุขทุกสถาน ราษฎรร้อนใจดังไฟกาล โปรดประทานฟ้าฝนให้ชนคลาย ฯ
ป่างบรมพรหมทัตบดินทร์สูรย์ ได้ฟังทูลทุกข์ราษฎร์ประกาศถวาย แสนสลดรันทดระทวยกาย จึงเผยผายเทวราชประกาศพลัน สั่งมหาเสนาอันสามารถ ประชาราษฎร์เดือดร้อนจงผ่อนผัน เปิดระหว่างข้าวฉางของเราพลัน เอาแบ่งกันแจกจ่ายจำหน่ายไป พอปีหน้าฟ้าฝนจะมีบ้าง เป็นกำลังฝูงสัตว์จะตัดษัย เราจะทรงทศมิตรเป็นนิจไป จงแก้ไขข้อความตามกระทรวง ขุนมนตรีกรมวังรับสั่งท้าว มาจ่ายข้าวทุกระหว่างในฉางหลวง ให้ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินสิ้นทั้งปวง มาตักตวงไปจนหมดกำหนดปี ถึงปีหน้าฟ้าในก็เหือดหาย โจรผู้ร้ายเกิดยุ่งทั้งกรุงศรี แต่ฝนแล้งมิได้ตกถึงหกปี ชาวบูรีเข้าล้อมกันพร้อมเพรียง ทั้งหนุ่มสาวเฒ่าแก่ออกแซ่ซ้อง ชุมนุมร้องทุกข์ราษฎร์ประกาศเสียง ทูลกระหม่อมจอมพงศ์ดำรงเวียง ท้าวไม่เลี้ยงไพร่ฟ้าหรือว่าไร (มีต่อ - )
รายนามผู้เยี่ยมชม : Black Sword, รพีกาญจน์, กร กรวิชญ์, ลิตเติลเกิร์ล, มยุเรศ เมรี, ลมหนาว ในสายหมอก, น้ำหนาว, พรานไพร, ก้าง ปลาทู, ฟองเมฆ, ปลายฝน คนงาม, ขวัญฤทัย (กุ้งนา), เนื้อนาง นิชานาถ, กอหญ้า กอยุ่ง, rattanatrai rattanajan, มนชิดา พานิช
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หญิงหนิง พราววลี
|
Permalink: Re: # นิทานไทยคำกลอน # * ยายกับตา *
# นิทานยายกับตา (ปลูกข้าว) #
ถ้าฝนแล้งเหือดแห้งเหมือนแต่ก่อน พระภูธรจะเป็นองค์อย่าสงสัย จะทุบด้วยท่อนจันทน์ให้บรรลัย จงเร่งให้ฝนตกในปัถพี บรมนารถฟังราษฎรร้อง ดังเพลิงต้องกลางทรวงเจ้ากรุงศรี ให้โศกเศร้าท้าวเสด็จจรลี มาสู่ที่พระโรงรัตน์ดำรัสไป ว่าดูก่อนเสวกาเป็นข้าเฝ้า เร่งหลอมเอาก้อนทองอันผ่องใส แล้วผูกคอมิ่งม้าพากันไป เข้าบ้านไร่ชาวป่าพนาวัน โภชนาสาลีใครมีบ้าง ให้มายังกรุงศรีไอศวรรย์ จะชั่งข้าวชั่งทองให้กองกัน เที่ยวผายผันร้องไปดังใจปอง ใครมีข้าวมีปลาเจ้าข้าเอ๋ย อย่าปิดบังไว้เลยไปทูลฉลอง จะชั่งข้าวให้เท่ากับแผ่นทอง เสียงป๋องป๋องร้องไปตามมรรคา ( มีต่อ - )
รายนามผู้เยี่ยมชม : ปลายฝน คนงาม, กร กรวิชญ์, รพีกาญจน์, ลมหนาว ในสายหมอก, ฟองเมฆ, Black Sword, ขวัญฤทัย (กุ้งนา), ลิตเติลเกิร์ล, ก้าง ปลาทู, พรานไพร, น้ำหนาว, เนื้อนาง นิชานาถ, กอหญ้า กอยุ่ง, rattanatrai rattanajan, มนชิดา พานิช
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หญิงหนิง พราววลี
|
Permalink: Re: # นิทานไทยคำกลอน # * ยายกับตา *
# นิทานยายกับตา (ปลูกข้าว) #
จนสิ้นย่านบ้านช่องเที่ยงร้องถาม ไม่ได้ความเลยไปไพรพฤกษา ได้สามวันดั้นเดินดำเนินมา จนเกือบใกล้ยายตาริมคีรี ฯ
จะกล่าวถึงเฒ่าชรารักษาสัตย์ พูลสวัสดิ์จะได้ครองบูรีศรี ทั้งผัวเมียตรึกตราในราตรี บันดาลมีบุพนิมิตขึ้นพร้อมกัน ครั้นรุ่งเช้าเฒ่าตื่นขึ้นล้างหน้า ข้างฝ่ายตาให้ยายทำนายฝัน ไม่เคยเลยยายเอ๋ยประหลาดครัน กูนอนฝันว่าถูกเฆี่ยนกูเจียนตาย มันตอกเล็บบีบขมับเสียขวัญเขวียว กูแสนเสียวหลังไหล่นี่ใจหาย ในฝันนั้นกูสำคัญว่าตัวตาย สงสารยายจะเป็นหม้ายในไพรวัน ท่านยายให้พรผัวแล้วหัวร่อ ข้าฝันต่อไปว่าตานั้นอาสัญ แต่ตกใจให้สะอื้นจนตื่นพลัน ตาก็แก้ความฝันว่าฝันดี ฯ
ครั้นสายแสงสุริยาท่านตาเฒ่า ก็เดินเข้ากลางป่าพนาสี พอพบพวกเสนากับพาชี ตาก็มีเนื้อความร้องถามไป เจ้าหนุ่มหนุ่มกลุ้มเกลื่อนอยู่กลางป่า จะชักพากันไปหนตำบลไหน ฝ่ายพวกพลมนตรีก็ดีใจ ก็เข้าใกล้ตาเฒ่าเเล้วเล่าเรื่อง ในพาราข้าวแพงด้วยแล้งฝน ทั้งผู้คนล้มตายลงนองเนื่อง มีรับสั่งภูวนารถผู้ปราดเปรื่อง ให้นำเรื่องออกมาตามพนาวา โภชนาสาลีใครมีขาย เอาไปถวายภูวนารถเหมือนปรารถนา จะชั่งข้าวเท่าทองประทานมา ข้าวของตามีบ้างหรืออย่างไร ฯ (มีต่อ - )
รายนามผู้เยี่ยมชม : ปลายฝน คนงาม, กร กรวิชญ์, รพีกาญจน์, ลมหนาว ในสายหมอก, ฟองเมฆ, Black Sword, ขวัญฤทัย (กุ้งนา), ลิตเติลเกิร์ล, ก้าง ปลาทู, พรานไพร, น้ำหนาว, เนื้อนาง นิชานาถ, กอหญ้า กอยุ่ง, rattanatrai rattanajan, มนชิดา พานิช
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หญิงหนิง พราววลี
|
Permalink: Re: # นิทานไทยคำกลอน # * ยายกับตา *
# นิทานยายกับตา (ปลูกข้าว) #
ท่านตาเฒ่าฟังเล่าว่าฝนแล้ง ประจักษ์แจ้งกิจจาจึงปราศรัย ก็มีบ้างอยู่แลเจ้าตามเราไป จะรับให้แต่ตัวยังกลัวยาย กระนั้นเจ้าเข้าไปเคหาข้า ถ้าปรึกษายายยอมจะน้อมถวาย แกว่าพรางทางพาเสนานาย ก็ผันผายมากระท่อมจอมคีรี ถึงเคหาตาเรียกว่ายายเอ๋ย อย่าช้าเลยลุกลงมานั่งนี่ จงหุงข้าวเลี้ยงเจ้าชาวบุรี เอาแย้จี่จิ้มปลาร้าประสาจน ทั้งสองเฒ่าเข้าครัวทำขวักไขว่ เอาไฟใส่ฟืนเสือกเสลือกสลน แล้วคดใส่กระบายให้นายคน ที่พวกพลตองวางเอาต่างชาม ครั้นอิ่มหนำสำราญทั้งนายไพร่ เสนาในผู้ชำนาญการสนาม จึงตักเตือนยายตาอย่าช้าความ หลานขอตามออกไปที่ปลายนา จะจดหมายไปถวายพระทรงสวัสดิ์ สักกี่ถังกี่สัดอย่ากังขา ตากับยายยิ้มละไมอยู่ไปมา แกบอกว่าให้ไปดูทุกผู้คน กูตั้งยุ้งไว้ตลอดบนยอดเขา กลัวแต่ชาวพระนครขี้เกียจขน พวกออเจ้าเหล่านี้สักกี่คน เอ็งหาบขนเอาไปกินให้พอการ แล้วยายตาพาขึ้นบนยอดเขา เห็นยุ้งข้าวตั้งเรียงเคียงขนาน พวกเสนาดีใจใครจะปาน บ้างก้มกรานกราบไหว้ท่านยายตา บ้างจักหวายทำกระบายกระบุงแบก ไขว่สาแหรกเหลาคานสานตะกร้า ทั้งนายไพร่ได้ตามบรรดามา ก็ลินลาลงจากคีรีพลัน (มีต่อ - )
รายนามผู้เยี่ยมชม : Black Sword, รพีกาญจน์, น้ำหนาว, ลิตเติลเกิร์ล, ลมหนาว ในสายหมอก, กร กรวิชญ์, ฟองเมฆ, พรานไพร, เนื้อนาง นิชานาถ, ขวัญฤทัย (กุ้งนา), กอหญ้า กอยุ่ง, rattanatrai rattanajan, มนชิดา พานิช
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หญิงหนิง พราววลี
|
Permalink: Re: # นิทานไทยคำกลอน # * ยายกับตา *
# นิทานยายกับตา (ปลูกข้าว) #
ขุนเสนาจึงปรึกษาทั้งสองเฒ่า ขึ้นไปเฝ้าพระบรมนรังสรรค์ เห็นภูบาลจะประทานรางวัลครัน อย่าหวาดหวั่นเคลือบแคลงระแวงใจ แล้วก็พาตายายทั้งสองศรี ออกจากที่เพิงผาที่อาศัย บุกป่าชัฏตัดเลี่ยงมาเวียงไชย กำหนดไว้สามทิวาถึงธานี ฯ
ครั้นเวลาภาณุมาศแจ่มจรัส กรุงกษัตริย์ออกท้องพระโรงศรี เสนาพร้อมน้อมเกล้าดุษฎี ขุนเสนีนำเฒ่าเข้าเฝ้าพลัน ศิโรราบก้มกราบได้สามหน ทูลยุบลบรรยายที่ผายผัน ข้าลดเลี้ยวเที่ยวถามได้สามวัน พบสำคัญเคหาท่านตายาย แต่ผัวเมียอยู่กระท่อมที่จอมเขา มีแต่ข้าวอยู่ในยุ้งนั้นเหลือหลาย จึงได้ชวนแกมาสองตายาย จึงผันผายพาตัวยายตามา ฯ ( มีต่อ - )
รายนามผู้เยี่ยมชม : Black Sword, รพีกาญจน์, น้ำหนาว, ลิตเติลเกิร์ล, ลมหนาว ในสายหมอก, กร กรวิชญ์, ฟองเมฆ, พรานไพร, เนื้อนาง นิชานาถ, ขวัญฤทัย (กุ้งนา), กอหญ้า กอยุ่ง, rattanatrai rattanajan, มนชิดา พานิช
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หญิงหนิง พราววลี
|
Permalink: Re: # นิทานไทยคำกลอน # * ยายกับตา *
# นิทานยายกับตา (ปลูกข้าว) #
บดินทร์สูรย์ฟังทูลพระทัยชื่น สำราญรื่นดังได้ดาวดึงสา เบือนพระพักตร์ทักถามยายกับตา โภชนาขัดเคืองในเมืองเรา จึงป่าวร้องเอาทองไปแลกเปลี่ยน สักกี่เกวียนข้าวของทั้งสองเฒ่า อันเงินทองที่ในท้องพระคลังเรา จะแลกข้าวเสียให้สิ้นด้วยยินดี เออเคหาตายายอยู่ชายแดน ในแว่นแคว้นนัคเรศบูรีศรี เมื่อฝนแล้งแห้งหลายฤดูปี ไฉนมีข้าวมากเราหลากครัน ทั้งสองเฒ่าก้มเกล้ากราบกษัตริย์ จึงแจ้งอรรถตามจริงทุกสิ่งสรรพ์ เมื่อได้พรอินทราเอราวัณ ตัวดีฉันมิได้ยากลำบากกาย ซึ่งพระองค์ประสงค์จะซื้อของ ทั้งเงินทองข้าประมูลทูลถวาย ด้วยไร้วงศ์พงษาแต่ตายาย จะฟูมฟายเอาไว้ทำไมมี อันเม็ดข้าวในที่นาของข้านั้น ให้ชวนกันออกไปเอาทั้งกรุงศรี จะย่อมเยาว์เบาไปนั้นไม่มี ก็น่าที่แต่พระองค์จำนงปอง ฯ
ธิบดินทร์ยินดีไม่มีเสมอ แล้วท้าวเธอโลมเล้าเฒ่าทั้งสอง ท่านรักเราจะไม่เอาซึ่งเงินทอง จะปกครองให้เหมือนญาติกากัน แล้วตรัสสั่งเสนาบัญชาสนอง จงป่าวร้องบอกไปทั้งไอศวรรย์ ทั้งน้อยใหญ่ไพร่ฟ้าให้มาพลัน ในขอบคันธเสมาพาราเรา แล้วนำทางย่างไปในไพรสัณฑ์ ให้ชวนกันไปเอาข้าวที่ยอดเขา ทั้งระหว่างฉางข้าวกระทรวงเรา ขนเอาข้าวไว้ให้เต็มตามแผ่นดิน (มีต่อ - )
รายนามผู้เยี่ยมชม : พรานไพร, รพีกาญจน์, Black Sword, กร กรวิชญ์, ฟองเมฆ, เนื้อนาง นิชานาถ, ลมหนาว ในสายหมอก, ขวัญฤทัย (กุ้งนา), ลิตเติลเกิร์ล, กอหญ้า กอยุ่ง, rattanatrai rattanajan, มนชิดา พานิช
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
หญิงหนิง พราววลี
|
Permalink: Re: # นิทานไทยคำกลอน # * ยายกับตา *
# นิทานยายกับตา (ปลูกข้าว) #
เสนาในได้สดับคำรับสั่ง พร้อมสะพรั่งชื่นชมสมถวิล จึงป่าวร้องไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน ให้รู้สิ้นเขตขอบนิคมคันธ์ ฯ
ครั้งนั้นไพร่ฟ้าประชาราษฎร์ ยินประกาศปรีดิ์เปรมเกษมสันต์ บ้างแต่งช้างขับเกวียนมาตามกัน เป็นลดหลั่นชักพากันคลาไคล เสนานำทำทางมากลางเถื่อน ก็กลาดเกลื่อนชาวเมืองเนื่องไสว ถึงเขาหลวงตวงเต็มทุกคนไป บรรทุกใส่วัวควายรายกันมา บ้างเข้าออกผลัดเปลี่ยนมาเนืองเนือง ก็ไม่เปลืองเม็ดข้าวเท่าเกศา ทั้งธานีมิได้มีใครทำนา ไปขนมาใส่ยุ้งไว้กรุงไกร โจรผู้ร้ายเหือดหายที่เดือดร้อน ราษฎรร่าเริงบังเทิงไสว เสี่ยงฆ้องกลองก้องกึกพิลึกไป ทั้งนอกในไพร่ฟ้าสถาวร ฯ
ป่างบดินทร์ปิ่นปักนัคเรศ อันเรืองเดชลือฤทธิ์อดิศร ครั้นพาราผาสุกไม่ทุกข์ร้อน พระภูธรชุมนุมเสนาใน ทั้งชีพราหมณ์โหราพฤฒามาตย์ เดียรดาษในพระโรงเรืองไสว พระทรงนั่งเหนือบังลังก์ลอยวิไล ข้างฝ่ายในพระสนมประณมกร จึงเอื้อนอรรถเทวราชประภาษถาม ทั้งชีพราหมณ์เข้าเฝ้าอยู่สลอน อันสองเฒ่ายายตาสถาวร ช่วยนครมีคุณทั้งธานี เราจะยกยายตาราชาภิเษก ให้เป็นเอกอุปราชบูรีศรี พวกข้าเฝ้าท้าวพระยาในธานี จะเห็นดีด้วยกันหรือฉันใด ฯ ( มีต่อ - )
รายนามผู้เยี่ยมชม : พรานไพร, รพีกาญจน์, Black Sword, กร กรวิชญ์, ฟองเมฆ, เนื้อนาง นิชานาถ, ลมหนาว ในสายหมอก, ขวัญฤทัย (กุ้งนา), ลิตเติลเกิร์ล, กอหญ้า กอยุ่ง, rattanatrai rattanajan, มนชิดา พานิช
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|