Username:

Password:


  • บ้านกลอนน้อยฯ
  • ช่วยเหลือ
  • ค้นหา
  • เข้าสู่ระบบ
  • สมัครสมาชิก
บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล >> ห้องเรียน >> ห้องหนังสือ บ้านกลอนน้อย >> สักระวาน่าหนาว
หน้า: [1]   ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: สักระวาน่าหนาว  (อ่าน 14223 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ลิตเติลเกิร์ล
.ผู้มีจินตนาการ.
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:48998
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 58
จำนวนกระทู้: 3796



| |
สักระวาน่าหนาว
« เมื่อ: 26, มกราคม, 2559, 02:19:14 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: สักระวาน่าหนาว

                  


สักระวาน่าหนาว
พระราชนิพนธ์: ศรีอยุธยา (พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.๖))


บทที่ ๑
๏ สักระวาน่าหนาวชาวสยาม                ค่อยมีความปรีดิ์เปรมเกษมสันต์
ฤดูร้อนอ่อนแท้แพ้แรงครัน                    ยามเหมันต์แรงทวีฤดีสบาย
พิศนภางค์เห็นสว่างกระจ่างแจ่ม           แสนอะแร่มเรืองอร่ามยามเดือนหงาย
ลมระรวยอวยกลิ่นผกากราย                 แสนสบายทั่วหน้าประชา เอย ฯ
                  
บทที่ ๒
๏ สักระวาข้าขอแถลงเรื่อง                    ให้ต่อเนื่องเปนกลอนสุนทรว่า
แถลงเล่าเปนเค้าสักระวา                     เช่นที่เคยเล่นมาแต่ก่อนกาล
ขอผู้เปนกะวีมีความรู้                          โปรดอภัยให้ดนูผู้แต่สาร
แม้มิถูกเยี่ยงแยบแบบโบราณ               ขอให้ท่านเมตตาข้าเถิด เอย ฯ
                  
บทที่ ๓
๏ สักระวาโบราณท่านย่อมว่า               แม้หนาวลมห่มผ้าก็อุ่นได้
หนาวน้ำฟ้าท่านว่าจงผิงไฟ                  หนาวอารมณ์ห่มอะไรจึ่งจะวาย
หนาวอารมณ์โอ้ระทมระทดจิต             ไร้มิ่งมิตร์พิศวาสอันมาตร์หมาย
หนาวตลอดทรวงร้าวหนาวทั้งกาย        หนาวแทบวายชีวิตปลิดไป เอย ฯ
                  
บทที่ ๔
๏ สักระวาต่อกลอนสุนทรถ้อย               ถึงหนุ่มน้อยบุญปลูกถูกสมัย
ชื่อสวัสดิ์วัฒวงศ์เผ่าพงศ์ไทย                อย่าอึงไปข้าจะบอกซึ่งความลับ
บิดาเขาชื่ออาเก๊าอยู่ตรอกแดง              ติดป้ายแดงขอบลายขายจันอับ
มารดาเขาชาวสยามนามแม่ทรัพย์        ฉะนั้นนับว่าถูกลูกไทย เอย ฯ      
                  
บทที่ ๕
๏ สักระวาอนุสนธิ์นิพนธ์พัจน์                ถึงสวัสดิ์วัฒวงศ์พงศ์ไทยใหม่
รูปเขางามเอี่ยมโอ่โก้กระไร                   ผิวเขาใสสะพรั่งดังเงินยวง
จากโรงเรียนอะซัมชั่นนั้นผ่านมา           โรงศึกษามหาดเล็กเด็กในหลวง
ชุบตัวใหม่ได้แน่สมแดดวง                    ชนทั้งปวงย่อมนิยมชมเขา เอย ฯ
                  
บทที่ ๖
๏ สักระวานายสวัสดิ์ชงัดเพียร               อยู่โรงเรียนมหาดเล็กหกเดือนเล่า
ก็สอบไล่ได้ที่ดีไม่เบา                            ไม่ช้าเขาสมจิตติดแผงคอ
ลองรับใช้อยู่ในราชสำนัก                      แต่เพียงสักหกเดือนเท่านั้นหนอ
เห็นว่าเปลืองวิชาการงานไม่พอ             เขาจึ่งขอลาออกนอกเทียว เอย ฯ
                  
บทที่ ๗
๏ สักระวานายสวัสดิ์ชัดฉกาจ                พ้นจากราชสำนักไม่พักเหี่ยว
เพราะเงินเขารวยดขโก้นักเทียว             หาเพื่อนเที่ยวได้ถนัดไม่ขัดทาง
เช้าเขาตื่นไม่สู้สายราวบ่ายโมง              แต่งโอ่โถงฟรีถนัดไม่ขัดขวาง
เสื้อแพรริ้วงามเด็ดเมล็ดมะปราง            พันคอพลางแกว่างไม้เท้าก้าวไป เอย ฯ
                  
บทที่ ๘
๏ สักระวาน่าดูสวัสดิ์โก้                          ขึ้นขี่โมเต้อร์ไซค์แล่นไปจี๋
ไปเที่ยวก๋าน่าพระลานสำราญดี              ทั้งมีช่องได้พบพวกเพื่อนยา
เห็นเพื่อนเก่าเขาออกมาจากวัง               สวัสดิ์ตั้งท่าเหมาะเยาะในหน้า
สงสารจังถูกขังในโน้นนา                        ไม่โก้ฟรีปรีดาเหมือนเรา เอย ฯ
                  
บทที่ ๙
๏ สักระวายามค่ำย่ำเย็นลง                      สวัสดิ์คงแต่งโอ่โก้นักหนา
แล้วรีบเร่งเร็วไปมิได้ช้า                            หาภักษากินโก้ที่โฮเตล
แล้วไปดูภาพยนตร์สนใจจินต์                   จำชาร์ลีแชปลินไว้เลียนเล่น
อีกมองดูนารีที่งามเด่น                            หนังเลิกเล่นแล้วชวนหล่อนไป เอย ฯ
                  
บทที่ ๑๐
๏ สักระวาพานางสำอางค์องค์                   ไปถนนราชวงศ์ลุ่มหลงใหญ่
กินเข้าต้มอิ่มหนำสำราญใจ                      แล้วเลยไปเคหาแม่นารี
ปลื้มประโลมอรไทยที่ในห้อง                     ประทีปส่องมรกฎแสนสดสี
อีกสองวันต้องไปหามิตานี                        เออเช่นนี้สิสนุกแสนสุข เอย ฯ

บทที่ ๑๑
๏ สักระวาอาเก๊าแสนเศร้าจิต                   รำพึงคิดถึงบุตร์สุดสงสาร
เฝ้าแต่เที่ยวร่ำไปไม่ทำงาน                      ไม่ได้การจะฉิบหายและขายตน
จึ่งปฤกษาอาทรัพย์และปรับทุกข์              ลูกเรารักแต่สนุกจะปี้ป่น
ฉันใดจะได้เห็นมันเปนคน                        อั๊วนี้จนใจแม้แม่ทรัพย์ เอย ฯ

                  
บทที่ ๑๒
๏ สักระวาแม่ทรัพย์รับปฤกษา                  จึ่งตอบว่าลื้อเหนอเซ่อไปได้
เอาไปฝากเจ้าคุณท่านเปนไร                   ให้เข้ารับราชการงานโอพีซ
ในไม่ช้าจะได้เห็นเปนขุนนาง                   คงมีทางสมหมายนายชอบจิต
ลงทุนของกำนัลท่านสักนิด                      คงสมคิดเราแท้แน่ละ เอย ฯ
                  
บทที่ ๑๓
๏ สักระวาไม่ช้านายสวัสดิ์                        ก็ได้พลัดไปเข้ากระทรวงหนึ่ง
อย่าออกนามดีกว่าข้าคำนึง                     ถึงกฎหมายหมิ่นประมาทมิอาจโว
เปนเสมียนสำรองท่านลองใช้                   เงินเดือนหาได้ไม่แต่ก็โก้
ทำท่าเปนขุนนางวางภูมโต                      เที่ยวคุยโอ้จึงโอพีซติดปาก เอย ฯ
                  
บทที่ ๑๔
๏ สักระวามชายงามผู้ทรามเปลี่ยว             มีเพื่อนเที่ยวพร้อมพรั่งดังถวิล
ช่วยสนุกสุขสนานในการกิน                      อีกชี้ถิ่นที่เล่นอย่างเย็นใจ
แต่ละคืนกลับดึกพิลึกแท้                          แต่พ่อแม่จะว่าก็หาไม่
เชื่อว่าเขาคงติดงานการท่านใช้                 สองดีใจชมบุตร์สุดรัก เอย ฯ
                  
บทที่ ๑๕
๏ สักระวาอยู่มามิช้านัก                            สวัสดิ์รักกัญญามารศรี
ชื่อว่าสาวสร้อยระย้ายอดนารี                    เรียนอยู่ที่แหม่มโคล์ก็นักแฮะ
ตาขำคมผมมวยสรวยสมหน้า                   ฟันมุกดาเด่นขาวราวกับแกะ
สะเอวกลมนมเต่งเก่งจริงและ                    น่าต้องแตะกายกอดยอดหญิง เอย ฯ
                  
บทที่ ๑๖
๏ สักระวาคอยหาซึ่งโอกาส                        รู้จักนาฎนวลละอองผู้ผ่องศรี
คอยด้อมมองจ้องอยู่ดูท่วงที                      จนโชคดีได้สมอารมณ์ปอง
ไปพบหล่อนในห้างอันกว้างใหญ่                หล่อนนั้นไซร้ชุลมุนวุ่นซื้อของ
ผ้าเช็ดหน้าหล่อนหล่นปนลออง                  สวัสดิ์จ้องจ้วงหยิบคืนหล่อน เอย ฯ
                  
บทที่ ๑๗
๏ สักระวาคราเมื่อรู้จักแล้ว                        เพียรจะพบนางแก้วไม่หยุดหย่อน
ไม่พบสมปราถนาแสนอาวรณ์                   เขียนอักษรแถลงแจ้งจิตไป
ว่าไมเดียร์พี่ละเหี่ยในดวงจิต                     เมื่อไรจะได้คิสส์พิสมัย
ไอลัฟหล่อนบังอรจงเชื่อไอ                        โอริไปลให้ดีสักที เอย ฯ
                  
บทที่ ๑๘
๏ สักระวาสร้อยระย้าได้รับสาร                   แม่นงคราญนึกขันหาน้อยไม่
หล่อนรู้ชัดว่าสวัสดิ์นั้นคือใคร                    จึ่งจงใจล้อเล่นเปนอาทิ
จึ่งเขียนตอบขอบใจเปนนักหนา                แต่ตูข้าเปนอนงค์จงตรองตริ
จะใจง่ายดายฉะนั้นแล้วกันซิ                    ชนจะติแต้มร้ายอายเขา เอย ฯ
                  
บทที่ ๑๙
๏ สักระวาหนุ่มตะกอพอรับสาร                  ยิ่งทราบสร้านทรวงรักเปนนักหนา
ตอบย้อนไปไมเดียร์เฮียร์ไอว่า                    โอแม่ดาร์ลิงสร้อยผู้กลอยใจ
อันตัวพี่มีเอดุเคชั่น                                    ได้เรียนจบครบสรรพ์ทันสมัย
หล่อนก็เปนนารีซีวิไลซ์                               ฉะนั้นไซร้ควรคู่ดูเหมาะ เอย ฯ
                  
บทที่ ๒๐
๏ สักระวาทรามเชยเฉลยสาร                     จดหมายวานนี้อ่านก็นึกขัน
คุณคงนึกว่าสร้อยรู้น้อยครัน                      เพราะฉะนั้นจะหลอกเล่นตามใจ
เมื่อแต่งงานกับสร้อยเรียบร้อยแล้ว             อันแม่แก้วเมียเก่าเอาไว้ไหน
จะไว้บ้านเดียวกันหรือฉันใด                      ขอจงได้แถลงแจ่มแจ้ง เอย ฯ


รายนามผู้เยี่ยมชม : ลมหนาว ในสายหมอก, Thammada, กร กรวิชญ์, น้ำหนาว, คอนพูธน, หนูหนุงหนิง, รพีกาญจน์, กรกช, Black Sword, ขวดเก่า, ปลายฝน คนงาม, มยุเรศ เมรี, ก้าง ปลาทู, หญิงหนิง พราววลี, Mr.music, ปลาย อักษร, Paper Flower, วรรณดี, มนชิดา พานิช

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "ลิตเติลเกิร์ล"
..

ลิตเติลเกิร์ล
.ผู้มีจินตนาการ.
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:48998
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 58
จำนวนกระทู้: 3796



| |
Re: สักระวาน่าหนาว
« ตอบ #1 เมื่อ: 27, มกราคม, 2559, 03:28:36 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: สักระวาน่าหนาว

บทที่ ๒๑
๏ สักระวาตอบถ้อยแม่สร้อยถาม               ขอบอกความสัจจาอย่าฉงน
นางแก้วกับงามปลอดยอดกมล                 คนละชั้นไม่เทียบอย่าเปรียบกัน
เมียเกเรเกเสทั้งเพไซร้                               เปนห่วงใยนิ่มน้องจงเชื่อฉัน
เมียคนที่พาโชแบบโก้นั้น                          คือแจ่มจันทร์สร้อยระย้ายาใจ เอย ฯ
                  
บทที่ ๒๒
๏ สักระวานารีมีสารตอบ                           ว่าฉันขอบใจพี่หาน้อยไม่
แต่ดิฉันตั้งจิตคิดมั่นใจ                              ว่าจะไม่ร่วมผัวกับใครเลย
ดิฉันนี้มีวิชาอยู่พอตัว                                คงหาผัวไม่ยากนะพี่เอ๋ย
ทั้งขุนหลวงพระพระยาพอหาเชย                ได้เสบยเปนแน่แท้เทียว เอย ฯ
                  
บทที่ ๒๓
๏ สักระวานายสวัสดิ์ออกขัดจิต                   ย้อนลิขิตว่าน้องจงตรองหน่อย
อยากได้ผัวแก่ชราอายุร้อย                         แม่สาวสร้อยจะสุขได้ฉันใด
หวังสบายกลับจะกลายเปนรำคาญ             คอยแต่นั่งพยาบาลสามีไข้
จะเปนสุขสนุกได้ฉันใด                               ขอสายใจไตร่ดูให้ดี เอย ฯ
                  
บทที่ ๒๔
๏ สักระวาสาวสร้อยตอบถ้อยว่า                 ภัสดาหนุ่มน้อยก็อาจไข้
เช่นคุณเองก็เก่งหยอกเมื่อไร                      เคยได้ไปแอบหามิตานี
อันผัวแก่แม้ไข้ขอให้เพียง                          บำรุงเลี้ยงฟุ่มเฟือยเรื่อยเต็มที่
ก็จะได้เปนสุขสนุกดี                                 ทรัพย์สินมีมากใช้พอใจ เอย ฯ
                  
บทที่ ๒๕
๏ สักระวานายสวัสดิ์แสนขัดจิต                  นางมิ่งมิตร์ตอบตัดและขัดขวาง
เฝ้าคะนึงอึ้งอ้ำคลำหาทาง                        ที่ให้นางจึกรักสมัคใจ
ตามเชื้อเก่าเขาย่อมดูถูกหญิง                   นึกว่าสิ่งที่พอจะล่อได้
คืออวดมีอวดมั่งตั้งหน้าใหญ่                     นึกแน่ใจคงสมอารมณ์ เอย ฯ
                  
บทที่ ๒๖
๏ สักระวาต่อมาสวัสดิ์โง่                           ก็แต่งตัวฟรีโก้ยิ่งกว่าเก่า
คอยเที่ยวกรอล่อตาแม่นงเยาว์                  ทุกค่ำเข้าเฝ้าคิดยวนจิตนาง
หล่อนออกปากอะไรหาให้สิ้น                    ทั้งเพ็ชร์นิลแหวนกำไลไม่ขัดขวาง
นางจะไปหนไหนไฝ่ตามนาง                     จนราร้างกิจการงานหมด เอย ฯ
                  
บทที่ ๒๗
๏ สักระวาท่านมหาอำมาตย์ใหญ่              ได้ลองใช้นายสวัสดิ์หกเดือนกว่า
เห็นว่าไม่เปนเรื่องเคืองอัชฌา                   เข้าก็มาแสนสายบ่ายกลับวัน
ครั้นตักเตือนก็ง้อขอแก้ตัว                        แต่เมามัวลืมคำที่ร่ำมั่น
เตือนจนเบื่อไม่เชื่อไม่ฟังกัน                      ออกจากกระทรวงฉันดีกว่า เอย ฯ
                  
บทที่ ๒๘
๏ สักระวานายสวัสดิ์สะบัดหน้า                คำนับลาเจ้าคุณขุ่นไปบ้าน
บอกบิดาว่าลาออกจากงาน                     เพราะนายท่านไม่ชอบตัวลูกยา
อันลูกไซร้ไม่เปนหัวประจบ                       ไม่นอบนบลีนเตียเคลียเปนข้า
ทุกวันนี้คนดีมีวิชา                                  ต้องเสียท่าคนช่าง ป.จ. เอย ฯ
                  
บทที่ ๒๙
๏ สักระวาอาเก๊าไม่เข้าจิต                        มิได้คิดว่าลูกกล่าวมุสา
เห็นว่าเปนคนดีมีวิชา                              ไหนจะมาพูดปดสดๆ ฉะนี้
จึ่งปลอบว่าลูกยาอย่าเสียใจ                    เตี่ยจะช่วยลูกให้เจริญศรี
จะพาไปฝากตัวเจ๊สัวฮี้                             มิช้าทีสมหวังมั่งมี เอย ฯ
                  
บทที่ ๓๐
๏ สักระวาแม่ทรัพย์กลับฉงน                     หรือลูกตนจะหลอกตาเตี่ยให้
แกอุส่าห์พยายามสืบถามไป                     มิช้าใยแจ้งจริงทุกสิ่งอัน
แกแสนโกรธติโทษนายสวัสดิ์                    ปดถนัดน่าเฆี่ยนเจียนอาสัญ
อันเงินทองของใช้ไม่ให้ปัน                        จนกว่ามันนี่นะจะดี เอย ฯ
                  
บทที่ ๓๑
๏ สักระวานายสวัสดิ์ข้องขัดจิต                  แต่สุดคิดขัดแม่หรือแปรผัน
ทั้งนายเตี่ยกลัวเมียเสียมากครัน                เพราะฉนั้นหมดท่าหาอุบาย
จึ่งก้มกราบมารดาว่าลูกชั่ว                       ละเลิงตัวเล่นล้วนจวนฉิบหาย
ขอคุณแม่เมตตาแก่ลูกชาย                       โปรดภิปรายช่วยชี้วิถี เอย ฯ
                  
บทที่ ๓๒
๏ สักระวาแม่ทรัพย์รับลูกยอ                      แกก็พอใจมากหาน้อยไม่
จึ่งตอบว่าลูกยาก็เติบใหญ่                        ควรตั้งใจแล้วเจ้ามีเย่าเรือน
นี้ก็เปนธรรมดามารดาไซร้                         ย่อมมั่นใจว่าแม้ลูกมีเพื่อน
เสนหายาจิตอยู่ติดเรือน                            ย่อมคิดเหมือน ๆ กันทั้งนั้น เอย ฯ
                  
บทที่ ๓๓
๏ สักระวานายสวัสดิ์ยกหัตถ์ไหว้                แล้วถามไปว่าเมียของดิฉัน
จะหาได้ที่ไหนลูกใครกัน                           และหล่อนนั้นรูปร่างเปนอย่างไร
ขอคุณแม่รู้นาว่าลูกนี้                               เปนคนฟรียังสยามตามสมัย
ต้องขอเลือกหญิงงามตามพอใจ                จะจัดไปอย่างเก่าไม่เอา เอย ฯ
                  
บทที่ ๓๔
๏ สักระวาแม่พ่อหัวร่อร่วน                        ฟังสำนวนลูกเราเขาเก่งก๋า
เขาจะตามใจตนคันภรรยา                       แต่ว่าเงินทองเขาเอาจากใคร
โตปานนี้ไม่มีอาชีวะ                                จะเลี้ยงครอบครัวนั้นฉันใดได้
ไม่ให้เราเลือกให้ก็ตามใจ                         หาเองเราไม่ให้ทุนเรา เอย ฯ
                  
บทที่ ๓๕
๏ สักระวาหนุ่มตะกอฟังพ่อแม่                 นึกว่าแย่เสียทีแกปี้ป่น
ต้องยินยอมอ่อนน้อมดูสักหน                  พอให้พ้นทุกข์ไปในครานี้
จึ่งตอบว่าข้าขออภัยโทษ                         อันจะโปรดปลูกฝังทั้งทีนี่
สุดแท้แต่จะเมตตาปรานี                         ตัวลูกนี้ประนอมพร้อมใจ เอย ฯ
                  
บทที่ ๓๖
๏ สักระวามารดายินดีแท้                        จึ่งตอบแก่ลูกชายสายสมร
แม่เห็นว่ากิมลี้ศรีบังอร                            ลูกอากรไล่เห่าเขาเหมาะดี
เขามั่งมีเงินทองเข้าของถม                     แสนอุดมมั่งคั่งทั้งดินที่
ผืนโต ๆ อะโขเขามากมี                          ผัดพรุ่งนี้จะไปขอให้พ่อ เอย ฯ
                  
บทที่ ๓๗
๏ สักระวานายสวัสดิ์ข้องขัดจิต                รำพึงคิดถึงวิวาห์น่าใจหาย
นึกถึงสาวสร้อยระย้าน่าเสียดาย              แทบจะตายเพราะเศร้าเหงาวิญญา
โอ้อกเอ๋ยหวังเชยพักตร์แฉล้ม                  หวังจูบแก้มกอดดมชมเกศา
หวังฟังคำพริ้งพร้อยกลอยอุรา                 แต่นี้นาจะต้องพรากจากกัน เอย ฯ
                  
บทที่ ๓๘
๏ สักระวายิ่งคิดจิตยิ่งไข้                         ถอนใจใหญ่หยิบกระดาษวาดอักษร
ถึงแม่สาวสร้อยระย้าสง่างอน                  ขอบังอรเมตตาอย่าข้อนเคาะ
ด้วยแม่พ่อจะขอภรรยาให้                       จะคำนึงฐานใดไม่เห็นเหมาะ
ต้องจำทนก้มหน้าเปนคราเคราะห์            อย่าเยาะเลยแก้วตาปรานี เอย ฯ
                  
บทที่ ๓๙
๏ สักระวาสาวสร้อยตอบถ้อยว่า               ช่างเจรจาพลอดพล่อยน้อยไปฤา
คุณเปนชายสมัยใหม่ใคร ๆ ลือ                คุณมีชื่อว่าโก้นะเจ้าคะ
เหตุไฉนยอมให้เขาบังคับ                        จับแต่งงานปานเป็ดหรือไก่ล่ะ
หรือเต็มใจแต่ไถลหลอกเล่นนะ                ชรอยจะลวงสร้อยหนอยแน่ เอย ฯ
                  
บทที่ ๔๐
๏ สักระวาหนุ่มน้อยตอบถ้อยเฉลย             โอ้อกเอ๋ยดาร์ลิงกริ่งใจได้
อันนางสาวกิมลี้ดีอย่างไร                         จึ่งจะได้เปรียบสร้อยกลอยวิญญา
สร้อยเหมือนแสงสุริยงยามส่งศรี               ส่วนกิมลี้เหมือนหิ่งห้อยน้อยนักหนา
สร้อยคือหงส์สกุณีลี้คือกา                        ฤาจะมาแข่งขันกันได้ เอย ฯ
                


รายนามผู้เยี่ยมชม : รพีกาญจน์, กร กรวิชญ์, ลมหนาว ในสายหมอก, Black Sword, ขวดเก่า, ปลายฝน คนงาม, มยุเรศ เมรี, ก้าง ปลาทู, น้ำหนาว, หญิงหนิง พราววลี, หนูหนุงหนิง, Mr.music, Thammada, ปลาย อักษร, Paper Flower, วรรณดี, มนชิดา พานิช

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "ลิตเติลเกิร์ล"
..
ลิตเติลเกิร์ล
.ผู้มีจินตนาการ.
****

จำนวนผู้เยี่ยมชม:48998
ออฟไลน์ ออฟไลน์

ID Number: 58
จำนวนกระทู้: 3796



| |
Re: สักระวาน่าหนาว
« ตอบ #2 เมื่อ: 28, มกราคม, 2559, 04:14:08 PM »
บ้านกลอนน้อยฯบ้านกลอนน้อยฯ

Permalink: Re: สักระวาน่าหนาว

                  
บทที่ ๔๑
๏ สักระวาบังอรย้อนตอบถ้อย                     พ่อหนุ่มน้อยฉอเลาะเหมาะเฉลย
ช่างค้นหาสิ่งเทียบและเปรียบเปรย              กระไรเลยนึกว่าเขาไม่เข้าใจ
อันแสงสูรย์และหงส์องค์อุดม                      เอาไว้ชมดูเล่นเห็นพอได้
แต่ที่แท้สูรย์แพ้แสงโคมไฟ                          หงส์อุไรแพ้นกขุนทอง เอย ฯ
                  
บทที่ ๔๒
๏ สักระวาชายอ่านดาลดวงจิต                     ตอบมิ่งมิตร์หน้าแฉล้มช่างแนมเหน็บ
ทุก ๆ คำตำใจได้ดังเล็บ                               หล่อนหยิกเจ็บเลือดอาบทราบสรรพางค์
แม้เลือกได้ฤาจะไม่สนธิน้อง                         เคียงประคองคู่ใจไม่เหินห่าง
ถึงตัวไกลใจยงคงคู่นาง                                รักไม่วางวายกระสันสักวัน เอย ฯ
                  
บทที่ ๔๓
๏ สักระวาสาวสร้อยตอบถ้อยแถลง                แม้ไม่แสร้างเสรหลอกจะบอกให้
เวลานี้ยังไม่มีซึ่งชายใด                                 จะมาไฝ่ขอน้องคู่ครองกัน
แม้สมัคจะดำรงคงไมตรี                                ก็ไม่มีผู้ใดจะเดียดฉัน
จะโต้ตอบสาราไปมากัน                                เชิงฉันมิตร์นั้นไม่เปนไร เอย ฯ
                  
บทที่ ๔๔
๏ สักระวานายสวัสดิ์วัฒวงศ์                         กำลังหลงสร้อยระย้าหาน้อยไม่
ครั้นได้รับสารตอบแสนชอบใจ                       ยิ่งรักใหญ่ทุกวันพันทวี
ถึงแต่งงานแล้วก็ปานมิได้แต่ง                       ทุกหนแห่งเที่ยวรอกรอโฉมศรี
สิ้นเกรงใจในส่วนแม่กิมลี้                              ประพฤฒิฟรีโก้เล่นเช่นก่อน เอย ฯ
                  
บทที่ ๔๕
๏ สักระวาอยู่มามิช้านัก                                เกิดขลุกขลักเปนการรำคาญใหญ่
เจ๊สัวฮี้ตรวจบาญชีเงินหายไป                        โกรธเปนไฟว่าจะร้องฟ้องคดี
แต่อาเก๊าเว้าวอนขอผ่อนใช้                           เงินนั้นให้แทนบุตร์จนเต็มที่
การค้าขายกำไรก็ไม่มี                                   พอหมดณี่นายเตี่ยเอี้ยเทียว เอย ฯ
                  
บทที่ ๔๖
๏ สักระวานายสวัสดิ์ขัดข้องใหญ่                   เจ๊สัวไล่แล้วหนอพ่อหมดท่า
อันการงานใด ๆ จะไฝ่หา                              ก็ลำบากเลือดตาแทบกระเด็น
แต่กระนั้นตามวิสัยคนใจแตก                        ก็ไม่แปลกเปลี่ยนใจในทางเล่น
เล่นม้าเล่นตีผีไม่มีเว้น                                  เพราะเปนเย็นตลแมนแสนโก้ เอย ฯ
                  
บทที่ ๔๗
๏ สักระวาอาชีพหามีไม่                                 ฉนั้นไซร้นายสวัสดิ์ขัดสนเหลือ
ครั้นไปขอเงินพ่อมาจุนเจือ                            เงินก็เมื้อหมดเสร็จเจ็ดวันไป
คิดอุบายย้ายยักชักชวนมิตร์                          ช่วยกันคิดลวงพ่อเห็นพอได้
ช่วยกันหนุนอาเก๊าเช่าเรือไฟ                          ขนเข้าไปซัวเถาเอาทุน เอย ฯ
                  
บทที่ ๔๘
๏ สักระวาเจ้าท่าตรวจกำปั่น                          เห็นว่ามันเก่าเกินเดินไม่ได้
จึ่งห้ามเรือมิให้ออกทเลใหญ่                          ฉนั้นไซร้อาเก๊าก็เข้าร้าย
เจ้าของเรือไม่ยอมจะคืนทรัพย์                       ฝ่ายโรงสีก็ปรับเอาฉิบหาย
อาเก๊าแก่แย่ยับอีกอับอาย                             รากเลือดวายชีวามิช้า เอย ฯ
                  
บทที่ ๔๙
๏ สักระวาแม่ทรัพย์นับว่าดี                           รักสามีจริงหนาน่าสงสาร
ยามวิโยคโศกใจดังไฟราน                            ปริเวทนาการอยู่หลายวัน
แล้วรำพึงถึงธรรมดาโลก                              มีแต่โศกเสื่อมสุขทุกสิ่งสรรพ์
ไม่มีสิ่งเที่ยงแท้แต่สักอัน                              เหตุฉะนั้นยอมสละจะดี เอย ฯ
                  
บทที่ ๕๐
๏ สักระวาคิดฉะนั้นแกผันผาย                      หาลูกชายชี้แจงแถลงไข
อันตัวแม่นี้แก่ลงแล้วไซร้                              จะอยู่ไปไม่สราญนานกี่วัน
แม่จึ่งคิดสะสมบ่มกุศล                                ไว้ช่วยตนเดินจบภพสวรรค์
อันสมบัติพัสถานทุกสิ่งอัน                           ขอมอบพลันให้ลูกปลูกฝัง เอย ฯ
                  
บทที่ ๕๑
๏ สักระวาฟังแม่แกขานไข                           นายสวัสดิ์ดีใจเปนนักหนา
เห็นแต่ตัวเปนใหญ่ไฝ่เงินตรา                      นึกแต่ว่าจะได้โก้โอ่เต็มตัว
จึ่งตอบว่าคุณแม่แก่ปานนี้                          บวชเปนชีดีละจะยังชั่ว
ไม่ควรห่วงเงินทองของพันพัว                      อย่าได้กลัวลูกจะเลี้ยงเพียงพอ เอย ฯ
                  
บทที่ ๕๒
๏ สักระวามารดาไปบวชแล้ว                      ฝ่ายลูกแก้วเปนสุขสนุกโข
เลี้ยงเพื่อนฝูงจูงหญิงวิ่งเที่ยวโช                  แสนจะโก้ก๋าใหญ่ไม่วายวัน
ของดี ๆ มีราคาค่าไม่น้อย                          ซื้อกำนัลสาวสร้อยทุกสิ่งสรรพ์
หล่อนอิดเอื้อนเตือนให้รับไว้พลัน                ฉนั้นหล่อนเกรงใจรับไว้ เอย ฯ
                  
บทที่ ๕๓
๏ สักระวาไม่ช้าสมบัติเหี้ยน                      ใช้จนเตียนแต่ยังไม่กลับจิต
อ้อนวอนขอพ่อตามาเปนนิตย์                   เพราะสิ้นคิดสิ้นท่าจะหาเอง
ในที่สุดไล่เห่าแกเว้าว่า                             เตือนก็กลับโกรธาทำตาเป๋ง
ครั้นแกโกรธโกรธตอบไม่ชอบเพลง             ลุกผางเผงเดินออกนอกบ้าน เอย ฯ
                  
บทที่ ๕๔
๏ สักระวาพ่อตาอุราร้าว                            เรียกลูกสาวออกมาว่าลูกเอ๋ย
ผัวของเจ้ามันใช้ไม่ได้เลย                          ขืนนิ่งเฉยจะยิบฉิบหายไป
เหมือนคบเหี้ยพลอยเสียราศีเปล่า              อีกตัวเจ้าเขาจะรักก็หาไม่
จะคงอยู่กับมันไปฉันใด                            อย่ากันเสียเปนไรลูกรัก เอย ฯ
                  
บทที่ ๕๕
๏ สักระวาอย่าจากนางกิมลี้                      นายสวัสดิ์ยินดีหาน้อยไม่
เขียนจดหมายถึงสร้อยผู้กลอยใจ               ว่าโอไมสวี๊ตหาร์ตไออ๊าสก์ยู
ทูบีแกล๊ดวิดมีที่ฟรีแล้ว                              ได้เชยแก้วกนิษฐามหาหรู
โดยเต็มที่ไม่มีใครกีดอยู่                            จะได้ลัฟแต่ยูผู้เดียว เอย ฯ
                  
บทที่ ๕๖
๏ สักระวาสาวสร้อยค่อยคำนึง                    ถึงฐานะของสวัสดิ์แสนขัดสน
อันการที่มีผัวเปนตัวตน                              ต้องหาคนมั่นคงยงยืนนาน
อันสวัสดิ์ขัดสนจนปานนี้                            เปนเมียเขาไม่มีซึ่งหลักฐาน
จะพลอยพากันฉิบหายแทบวายปราณ        ไม่เปนการเลิกทีดีกว่า เอย ฯ
                  
บทที่ ๕๗
๏ สักระวาตรึกตราเช่นนั้นไซร้                     จึ่งตอบนายสวัสดิ์ไปเปนคำว่า
ฉันขอโทษเธอโปรดกรุณา                          จะขอแจ้งกิจจาโดยจริงใจ
ดิฉันชอบสนุกและสุขสพรั่ง                         แสนเกลียดชังความจนทนไม่ไหว
อันสิ่งของดี ๆ ที่คุณให้                                ดิฉันได้รวบรวมส่งคืน เอย ฯ
                  
บทที่ ๕๘
๏ สักระวาน่าสงสารนายสวัสดิ์                     อ่านสารทราบความชัดก็มืดหน้า
หวลคำนึงถึงตัวแสนชั่วช้า                           เลวยิ่งกว่าเดรฉานสามาญแท้
ครั้นเมื่อค่อยวายคลายกำสด                       ไปประณตนบราบกราบกรานแม่
ขออภัยที่ได้ผิดมากแท้                                ขอคุณแม่ช่วยข้าครานี้ เอย ฯ
                  
บทที่ ๕๙
๏ สักระวาแม่ทรัพย์รับขวัญบุตร์                    ความรักยุดยึดใจไม่แปรผัน
อันตัวลูกได้สติสิดีครัน                                 ต่อแต่นี้ทีจะหมั่นในการงาน
ลูกจงจิตคิดอยากทำการใด                          ณแห่งไหนแม่จะพาไปฝากท่าน
แต่ลูกต้องตั้งสัตย์ปฏิญาณ                          จะทำงานยืดไปไม่ทิ้ง เอย ฯ
                  
บทที่ ๖๐
๏ สักระวานายสวัสดิ์ยกหัตถ์ไหว้                  แล้วตอบไปว่าลูกไม่แลเห็น
ว่าจะพึ่งแห่งใดได้ร่มเย็น                             เช่นพระราชสำนักพระจักรา
ลูกเคยอยู่ภายในไพล่วิ่งออก                        มาข้างนอกเพราะคิดผิดนักหนา
บัดนี้เห็นโทษตัวอันชั่วช้า                             นึกอายหน้ามิอาจกลับไป เอย ฯ
                  
บทที่ ๖๑
๏ สักระวาแม่ทรัพย์รับปากว่า                      แม่จะลองไปหาท่านผู้ใหญ่
ท่านมีความเมตตาหาน้อยไม่                      ไม่ไฝ่ผูกเวราลูกอย่ากลัว
รุ่งขึ้นไซร้แกไปหาเจ้าคุณ                             ขอพึ่งบุญบารมีไว้เหนือหัว
พ่อสวัสดิ์รู้สึกสำนึกตัว                                 จะละชั่วเปนแท้แน่แล้ว เอย ฯ
                  
บทที่ ๖๒
๏ สักระวาท่านผู้ใหญ่ใจอารี                         นึกเห็นแก่แม่ชีน่าสงสาร
จึ่งรับนายสวัสดิ์ไว้ให้ทำงาน                        เปนสำรองราชการในกองกลาง
สังกัดกรมมหรศพลองดูที                            เงินเดือนญี่สิบไซร้ใช้ต่าง ๆ
แม้งานแขงแรงดีอาจมีทาง                          ได้ขเยื่อนเลื่อนอย่างพอใจ เอย ฯ
                  
บทที่ ๖๓
๏ สักระวานายสวัสดิ์วัฒวงศ์                        สมประสงค์เข้าสำนักหลักฐานได้
ก็ทำงานขันเข้มอย่างเต็มใจ                         บ่อมิได้มัวเล่นเช่นเคยมา
สมัคประจำการกรมพรานหลวง                   ในเวลาทั้งปวงแต่งเสือป่า
เลิกแต่งกายโก้ฟรีที่เคยมา                           กิริยาเสงี่ยมเจียมตัว เอย ฯ
                  
บทที่ ๖๔
๏ สักระวากล่าวกลอนสุนทรแถลง                 มิได้แสร้งกล่าวเปรียบเทียบใครหนอ
หวังแต่จะสำแดงแถลงพอ                            ช่วยแนะข้อคติแห่งโบราณ
อันผู้ใดไฝ่ตามแต่ใจตน                                มักต้องทนทุกข์ภัยไร้สุขศานติ์
แม้รู้จักข่มใจไม่ยากนาน                              ได้พ้นทุกข์สุขสราญยั่งยืน เอย ฯ
                  
บทที่ ๖๕
๏ สักระวาจำลาสหายแล้ว                            ขอเกลอแก้วอยู่สุขสนุกสนาน
กลอนนี้เพียงเรียงเล่นเปนประมาณ               แก้รำคาญระหว่างว่างกิจจา
อันบทกลอนกระท่อนกระแท่นบ้าง                และแต่งอย่างสัประดนปนภาษา
ขอเพื่อนจงใจดีมีเมตตา                               โปรดอภัยให้ข้าบ้างเถิด เอย ฯ
                  
บทที่ ๖๖
๏ สักระวาหนาวจิตคิดไฉน                           จะห่มผ้าผิงไฟก็ไม่หาย
ได้แต่ขอนบนอมและมอบกาย                      กราบถวายแทบเบื้องบาทบงสุ์
ขอพึ่งพระบารมีโมลีโลก                               บุญโศลกอุ่นอารมณ์สมประสงค์
ขอพระมงกุฎเกศประเทศตรง                        พระยศยงยืนอยู่คู่ฟ้า เอย ฯ

- จบบริบูรณ์ -

สักระวาน่าหนาว
พระราชนิพนธ์: ศรีอยุธยา (พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว)




• กลับสู่ห้องหนังสือบ้านกลอนน้อย คลิก




             


รายนามผู้เยี่ยมชม : น้ำหนาว, หญิงหนิง พราววลี, มยุเรศ เมรี, หนูหนุงหนิง, รพีกาญจน์, พรานไพร, Mr.music, Black Sword, ขวดเก่า, ปลายฝน คนงาม, กร กรวิชญ์, ลมหนาว ในสายหมอก, ก้าง ปลาทู, Thammada, ปลาย อักษร, Paper Flower, วรรณดี, มนชิดา พานิช

บันทึกการเข้า

..
สารบัญบทกลอน  "ลิตเติลเกิร์ล"
..
หน้า: [1]   ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.14 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC
Simple Audio Video Embedder
| Sitemap
NT Sun by Nati
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.253 วินาที กับ 128 คำสั่ง
กำลังโหลด...