ลิตเติลเกิร์ล
|
Permalink: นิราศเมืองแกลง : สุนทรภู่
นิราศเมืองแกลง เป็นผลงานกวีนิพนธ์แบบกลอน ประพันธ์โดยสุนทรภู่ เป็นนิราศเรื่องแรกของท่าน ที่ได้แต่งขึ้นในปี พ.ศ. 2349 มีใจความกล่าวถึงการเดินทางโดยเรือ เพื่อไปยังเมืองแกลง โดยมีศิษย์ 2 คนร่วมโดยสารไปด้วยกัน คือ น้อยกับพุ่ม และมีผู้นำทางชื่อนายแสง เป้าหมายการเดินทางของสุนทรภู่ไม่ปรากฏแน่ชัด บ้างว่าเขาต้องการไปบวชกับบิดา บ้างว่าเขาเดินทางไปขอเงินเพื่อกลับมาแต่งงาน นักวิชาการยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ว่าสุนทรภู่กลับไปทำไม แต่ทางจังหวัดระยองได้นำเรื่องราวอิงประวัติศาสตร์ในช่วงนั้น ไปสร้างเป็นอนุสาวรีย์สุนทรภู่ที่เมืองแกลง
- กวีนิพนธ์อื่นของสุนทรภู่ -
• นิราศภูเขาทอง คลิก • นิราศพระประธม คลิก • นิราศพระบาท คลิก • โคลงนิราศสุพรรณ คลิก • สุภาษิตสอนหญิง คลิก • กาพย์พระไชยสุริยา คลิก
๏ โอ้สังเวชวาสนานิจจาเอ๋ย จะมีคู่มิได้อยู่ประคองเชย ต้องละเลยดวงใจไว้ไกลตา
ถึงทุกข์ใครในโลกที่โศกเศร้า ไม่เหมือนเราภุมรินถวิลหา จะพลัดพรากจากกันไม่ทันลา ใช้แต่ตาต่างถ้อยสุนทรวอน
โอ้จำใจไกลนุชสุดสวาท จึงนิราศเรื่องรักเป็นอักษร ให้เห็นอกตกยากเมื่อจากจร ไปดงดอนแดนป่าพนาวัน
กับศิษย์น้องสองนายล้วนชายหนุ่ม น้อยกับพุ่มเพื่อนไร้ในไพรสัณฑ์ กับนายแสงแจ้งทางกลางอารัญ จะพากันแรมทางไปต่างเมือง ฯ ๏ ถึงยามสองล่องลำนาวาเลื่อน พอดวงเดือนดั้นเมฆขึ้นเหลืองเหลือง ถึงวัดแจ้งแสงจันทร์จำรัสเรือง แลชำเลืองเหลียวหลังหลั่งน้ำตา
เป็นห่วงหนึ่งถึงชนกที่ปกเกล้า จะแสนเศร้าครวญคอยละห้อยหา ทั้งจากแดนแสนห่วงดวงกานดา โอ้อุรารุ่มร้อนอ่อนกำลัง
ถึงสามปลื้มพี่นี้ร่ำปล้ำแต่ทุกข์ สุดจะปลุกใจปลื้มให้ลืมหลัง ขออารักษ์หลักประเทศนิเวศน์วัง เทพทั้งเมืองฟ้าสุราลัย
ขอฝากน้องสองรามารดาด้วย เอ็นดูช่วยปกครองให้ผ่องใส ตัวข้าบาทจะนิราศออกแรมไพร ให้พ้นภัยคลาดแคล้วอย่าแพ้วพาน
ถึงสำเพ็งเก๋งตั้งริมฝั่งน้ำ แพประจำจอดเรียงเคียงขนาน มีซุ้มซอกตรอกนางเจ้าประจาน ยังสำราญร้องขับไม่หลับลง
โอ้ธานีศรีอยุธยาเอ๋ย นึกจะเชยก็ได้ชมสมประสงค์ จะลำบากยากแค้นไปแดนดง เอาพุ่มพงเพิงเขาเป็นเหย้าเรือน ฯ
นิราศเมืองแกลง ผู้แต่ง : สุนทรภู่ ที่มา หนังสือ "ประชุมนิราศสุนทรภู่" สำนักพิมพ์วิสดอม ฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๕๔ |
|
รายนามผู้เยี่ยมชม : Paper Flower, ก้าง ปลาทู, กอหญ้า กอยุ่ง, ปลาย อักษร, รพีกาญจน์, Black Sword, 1p, ปลายฝน คนงาม, กร กรวิชญ์, สาวเครือฟ้า, น้ำหนาว, ตูมตาม, หญิงหนิง พราววลี, ลมหนาว ในสายหมอก, ขวดเก่า, พรานไพร, Mr.music, ฟองเมฆ, มนชิดา พานิช
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลิตเติลเกิร์ล
|
Permalink: Re: นิราศเมืองแกลง : สุนทรภู่
๏ ถึงย่านยาวดาวคะนองคะนึงนิ่ง ยิ่งดึกยิ่งเสียใจใครจะเหมือน พระพายพานซ่านเสียวทรวงสะเทือน จนเดือนเคลื่อนคล้อยดงลงไรไร
โอ้ดูเดือนเหมือนดวงสุดาแม่ กระต่ายแลเหมือนฉันคิดพิสมัย เห็นแสงจันทร์อันกระจ่างค่อยสร่างใจ เดือนครรไลลับตาแล้วอาวรณ์
ถึงอารามนามชื่อวัดดอกไม้ คิดถึงไปแนบทรวงดวงสมร หอมสุคนธ์ปนกายขจายจร โอ้ยามนอนห่างนางระคางคาย
ถึงบางผึ้งผึ้งรังก็รั้งร้าง พี่ร้างนางร้างรักสมัครหมาย มาแสนยากฝากชีพกับเพื่อนชาย แม่เพื่อนตายมิได้มาพยาบาล
ถึงปากลัดแลท่าชลาตื้น ดูเลื่อมลื่นเลนลากลำละหาน เขาแจวจ้วงล่วงแล่นแสนสำราญ มาพบบ้านบางระเจ้ายิ่งเศร้าใจ
อนาถนิ่งอิงเขนยคะนึงหวน จนจวบจวนแจ่มแจ้งปัจจุสมัย ศศิธรอ่อนอับพยับไพ ถึงเซิงไทรศาลพระประแดงแรง
ขออารักษ์ศักดิ์สิทธิ์ที่สิงศาล ลือสะท้านอยู่ว่าเจ้าห้าวกำแหง ข้าจะไปทางไกลถึงเมืองแกลง เจ้าจงแจ้งใจภัคนีที
นิราศเมืองแกลง ผู้แต่ง : สุนทรภู่
|
รายนามผู้เยี่ยมชม : Paper Flower, น้ำหนาว, รพีกาญจน์, หญิงหนิง พราววลี, กอหญ้า กอยุ่ง, Black Sword, ปลายฝน คนงาม, ธนุ เสนสิงห์, กร กรวิชญ์, ก้าง ปลาทู, ปลาย อักษร, ตูมตาม, 1p, ธ.ธงไทย, ลมหนาว ในสายหมอก, ขวดเก่า, พรานไพร, ฟองเมฆ, มนชิดา พานิช
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลิตเติลเกิร์ล
|
Permalink: Re: นิราศเมืองแกลง : สุนทรภู่
ฉันพลัดพรากจากจรเพราะร้อนจิต ใช่จะคิดอายอางขนางหนี ให้นิ่มน้องครองรักไว้สักปี ท่านสุขีเถิดข้าขอลาไป
พอแจ่มแจ้งแสงเงินเงาระยับ ดาวเดือนดับเด่นดวงพระสุริย์ใส ถึงปากช่องคลองสำโรงสำราญใจ พอน้ำไหลขึ้นเช้าก็เข้าคลอง
เห็นเพื่อนเรือเรียงรายทั้งชายหญิง ดูก็ยิ่งทรวงช้ำเป็นน้ำหนอง ไม่แม้นเหมือนคู่เชยเคยประคอง ก็เลยล่องหลีกมาไม่อาลัย
กระแสชลวนเชี่ยวเรือเลี้ยวลด ดูค้อมคดขอบคุ้งคงคาไหล แต่สายชลเจียวยังวนเป็นวงไป นี่หรือใจที่จะตรงอย่าสงกา
ถึงด่านทางกลางคลองข้างฝั่งซ้าย ตะวันฉายแสงส่องต้องพฤกษา ออกสุดบ้านถึงทวารอรัญวา เป็นทุ่งคาแฝกแขมขึ้นแกมกัน
ลมระริ้วปลิวหญ้าคาระยาบ ระเนนนาบพลิ้วพลิกกระดิกหัน ดูโล่งลิ่วทิวรุกขะเรียงรัน เป็นเขตคันขอบป่าพนาลัย ฯ
นิราศเมืองแกลง ผู้แต่ง : สุนทรภู่
|
รายนามผู้เยี่ยมชม : กร กรวิชญ์, น้ำหนาว, ก้าง ปลาทู, รพีกาญจน์, Black Sword, ปลายฝน คนงาม, ปลาย อักษร, กอหญ้า กอยุ่ง, Paper Flower, ตูมตาม, 1p, หญิงหนิง พราววลี, ธ.ธงไทย, ลมหนาว ในสายหมอก, ขวดเก่า, พรานไพร, มนชิดา พานิช
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลิตเติลเกิร์ล
|
Permalink: Re: นิราศเมืองแกลง : สุนทรภู่
๏ ถึงทับนางวางเวงฤทัยวับ เห็นแต่ทับชาวนาอยู่อาศัย นางชาวนาก็ไม่น่าจะชื่นใจ คราบขี้ไคลคร่ำคร่าดังทาคราม
อันนางในนคราถึงทาสี ดีกว่านางทั้งนี้สักสองสาม โอ้พลัดพรากจากบุรินแล้วสิ้นงาม ยิ่งคิดความขวัญหายเสียดายกรุง
ถึงบางพลีมีเรือนอารามพระ ดูระกะดาษทางไปกลางทุ่ง เป็นเลนลุ่มลึกเหลวเพียงเอวพุง ต้องลากจุงจ้างควายอยู่รายเรียง
ดูเรือแพแออัดอยู่ยัดเยียด เข้าเบียดเสียดแทรกกันสนั่นเสียง แจวตะกูดเกะกะปะกระเชียง บ้างทุ่มเถียงโดนดุนกันวุ่นวาย
โอ้เรือเราคราวเข้าไปติดแห้ง เห็นนายแสงผู้เป็นใหญ่ก็ใจหาย นั่งพยุงตุ้งก่านัยน์ตาลาย เห็นวุ่นวายสับสนก็ลนลาน
น้อยกับพุ่มหนุ่มตะกอถ่อกระหนาบ เสียงสวบสาบแทรกไปด้วยใจหาญ นายแสงร้องรั้งไว้ไม่ได้การ เอาถ่อกรานโดยกลัวจนตัวโกง
สงสารแสงแข็งข้อไม่ท้อถอย พุ่มกับน้อยแทรกกลางเสียงผางโผง ถ้วยชามกลิ้งฉิ่งฉ่างเสียงกร่างโกรง นาวาโคลงโคลนเลอะตลอดแคม ฯ
นิราศเมืองแกลง ผู้แต่ง : สุนทรภู่
|
รายนามผู้เยี่ยมชม : Paper Flower, ปลาย อักษร, ตูมตาม, กอหญ้า กอยุ่ง, รพีกาญจน์, น้ำหนาว, Black Sword, กร กรวิชญ์, ปลายฝน คนงาม, บ้านกลอนน้อย, ก้าง ปลาทู, 1p, หญิงหนิง พราววลี, ธ.ธงไทย, ลมหนาว ในสายหมอก, ขวดเก่า, พรานไพร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
บ้านกลอนน้อย
|
Permalink: Re: นิราศเมืองแกลง : สุนทรภู่
๏ จนตกลึกล่วงทางถึงบางโฉลง เป็นทุ่งโล่งลานตาล้วนป่าแขม เหงือกปลาหมอกอกกกับกุ่มแกม คงคาแจ่มเค็มจัดดังกัดเกลือ
ถึงหัวป่าเห็นป่าพฤกษาโกร๋น ดูเกรียนโกรนกรองกรอยเป็นฝอยเฝือ ที่กิ่งก้านกรานกีดประทุนเรือ ลำบากเหลือที่จะร่ำในลำคลอง
ถึงหย่อมย่านบ้านไร่อาลัยเหลียว สันโดษเดียวมิได้พบเพื่อนสนอง เขารีบแจวมาในนทีทอง อันบ้านช่องมิได้แจ้งแห่งตำบล
ถึงคลองขวางบางกระเทียมสะท้านอก โอ้มาตกอ้างว้างอยู่กลางหน เห็นแต่หมอนอ่อนแอบอุระตน เพราะความจนเจียวจึงจำระกำใจ
จะเหลียวซ้ายแลขวาก็ป่าแสม ตะลึงแลปูเปี้ยวเที่ยวไสว ระหริ่งเรื่อยเฉื่อยเสียงเรไรไพร ฤทัยไหวแว่วว่าพะงางาม
ถึงชะแวกแยกคลองสองชะวาก ข้างฝั่งฟากหัวตะเข้มีมะขาม เข้าสร้างศาลเทพาพยายาม กระดานสามแผ่นพิงไว้บูชา
ตะลึงแลแต่ล้วนลูกจระเข้ โดยคะเนมากมายทั้งซ้ายขวา สักสองร้อยลอยไล่กินลูกปลา เห็นแต่ตากับจมูกเหมือนตุ๊กแก
โอ้คลองขวางทางแดนแสนโสทก ดูบนบกก็แต่ล้วนลิงแสม เลียบตลิ่งวิ่งตามชาวเรือแพ ทำลอบแลหลอนหลอกตะคอกคน
คำโบราณท่านผูกถูกทุกสิ่ง เขาว่าลิงจองหองมันพองขน ทำหลุกหลิกเหลือกลานพาลลุกลน เขาด่าคนจึงว่าลิงโลนลำพอง ฯ
นิราศเมืองแกลง ผู้แต่ง : สุนทรภู่
|
รายนามผู้เยี่ยมชม : Paper Flower, ปลาย อักษร, ก้าง ปลาทู, กอหญ้า กอยุ่ง, รพีกาญจน์, น้ำหนาว, 1p, Black Sword, ปลายฝน คนงาม, กร กรวิชญ์, ตูมตาม, หญิงหนิง พราววลี, ธ.ธงไทย, ลมหนาว ในสายหมอก, ขวดเก่า, พรานไพร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลิตเติลเกิร์ล
|
Permalink: Re: นิราศเมืองแกลง : สุนทรภู่
๏ ถึงชะวากปากคลองเป็นสองแพร่ง น้ำก็แห้งสุริยนก็หม่นหมอง ข้างซ้ายมือนั้นแลคือปากตะครอง ข้างขวาคลองบางเหี้ยทะเลวน
ประทับทอดนาวาอยู่ท่าน้ำ ดูเรียงลำเรือรายริมไพรสณฑ์ เขาหุงหาอาหารให้ตามจน โอ้ยามยลโภชนาน้ำตาคลอ
จะกลืนข้าวคราวโศกในทรวงเสียว เหมือนขืนเคี้ยวกรวดแกลบให้แสบศอ ต้องเจือน้ำกล้ำกลืนพอกลั้วคอ กินแต่พอดับลมด้วยตรมใจ
พอฟ้าคล้ำค่ำพลบลงหรบรู่ ยุงออกฉู่ชิงพลบตบไม่ไหว ได้รับรองป้องกันเพียงควันไฟ แต่หายใจมิใคร่ออกด้วยอบอาย
โอ้ยามยากจากเมืองแล้วลืมมุ้ง มากรำยุงเวทนาประดาหาย จะกรวดน้ำคว่ำขันจนวันตาย แม้เจ้านายท่านไม่ใช้แล้วไม่มา
พอน้ำตึงถึงเรือก็รีบล่อง เข้าในคลองคึกคักกันนักหนา ด้วยมืดมัวกลัวตอต้องรอรา นาวามาเรียงตามกันหลามทาง
ถึงบางบ่อพอจันทร์กระจ่างแจ้ง ทุกประเทศเขตแขวงนั้นกว้างขวาง ดูดาวดาษกลาดฟ้านภาภางค์ วิเวกทางท้องทุ่งสะท้านใจ
ดูริ้วริ้วลมปลิวที่ปลายแฝก ทุกละแวกหวาดหวั่นอยู่ไหวไหว รำลึกถึงขนิษฐายิ่งอาลัย เช่นนี้ได้เจ้ามาด้วยจะดิ้นโดย
เห็นทิวทุ่งวุ้งเวิ้งให้หวั่นหวาด กัมปนาทเสียงนกวิหคโหย ไหนจะต้องละอองน้ำค้างโปรย เมื่อลมโชยชื่นนวลจะชวนเชย
โอ้นึกนึกแล้วก็น่าน้ำตาตก ด้วยแนบอกมิได้แนบแอบเขนย ได้หมอนข้างต่างน้องประคองเกย เมื่อไรเลยจะได้คืนมาชื่นใจ ฯ
นิราศเมืองแกลง ผู้แต่ง : สุนทรภู่
|
รายนามผู้เยี่ยมชม : รพีกาญจน์, Black Sword, ปลายฝน คนงาม, กร กรวิชญ์, ก้าง ปลาทู, กอหญ้า กอยุ่ง, ตูมตาม, หญิงหนิง พราววลี, น้ำหนาว, Paper Flower, ธ.ธงไทย, ลมหนาว ในสายหมอก, ขวดเก่า, พรานไพร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลิตเติลเกิร์ล
|
Permalink: Re: นิราศเมืองแกลง : สุนทรภู่
๏ ถึงหย่อมย่านบ้านระกาดต้องลงถ่อ ค่อยลอยรอเรียงลำตามน้ำไหล จนล่วงเข้าหัวป่าพนาลัย ล้วนเงาไม้มืดคล้ำในลำคลอง
ระวังตัวกลัวตอตะเคียนขวาง เป็นเยี่ยงอย่างผู้เฒ่าเล่าสนอง ว่าผีสางสิงนางตะเคียนคะนอง ใครถูกต้องแตกตายลงหลายลำ
พอบอกกันยังมิทันจะขาดปาก เห็นเรือจากแจวตรงหลงถลำ กระทบผางตอนางตะเคียนดำ ก็โคลงคว่ำล่มลงในคงคา
พวกเรือพี่สี่คนขนสยอง ก็เลยล่องหลีกทางไปข้างขวา พ้นระวางนางรุกขฉายา ต่างระอาเห็นฤทธิ์ประสิทธิ์จริง
ขอนางไม้ไพรพฤกษ์เทพารักษ์ ขอฝากภัคนีน้อยแม่น้องหญิง ใครสามารถชาติชายจะหมายชิง ให้ตายกลิ้งลงเหมือนตอที่ตำเรือ
จนล่วงล่องมาถึงคลองที่คับแคบ ไม่อาจแอบชิดฝั่งระวังเสือ ด้วยครึ้มครึกพฤกษาลัดดาเครือ ค่อยรอเรือเรียงล่องมานองเนือง
ลำพูรายพรายพร้อยหิ่งห้อยจับ สว่างวับแวววามอร่ามเหลือง เสมอเม็ดเพชรรัตน์จำรัสเรือง ค่อยประเทืองทุกข์ทัศนาชม
ถึงบางสมัครเหมือนพี่รักสมัครมาด มาแคล้วคลาดมิได้อยู่กับคู่สม ถึงยามนอนนอนเดียวเปลี่ยวอารมณ์ จะแลชมอื่นอื่นไม่ชื่นใจ
แสนกันดารบ้านเมืองไม่แลเห็น ยะเยือกเย็นหย่อมหญ้าพฤกษาไสว โอ้คลองเปลี่ยวพี่ก็เปล่าเศร้าฤทัย จะถึงไหนก็ไม่แจ้งแห่งสำคัญ
ประจวบจนถึงตำบลบ้านมะพร้าว พอฟ้าขาวขอบไพรเสียงไก่ขัน เป็นที่กุมภาพาลชาญฉกรรจ์ ให้หวาดหวั่นรีบมาในสาชล
ถึงบางวัวเห็นแต่ศาลตระหง่านง้ำ ละอองน้ำค้างย้อยเป็นฝอยฝน ดาวเดือนดับลับเมฆเป็นหมอกมน สุริยนเยี่ยมฟ้าพนาลัย
พอเรือออกนอกชะวากปากตะครอง ค่อยลอยล่องตามลำแม่น้ำไหล ดูกว้างขวางว้างเวิ้งวิเวกใจ เป็นพงไพรฝูงนกวิหคบิน ฯ
นิราศเมืองแกลง ผู้แต่ง : สุนทรภู่
|
รายนามผู้เยี่ยมชม : หญิงหนิง พราววลี, กร กรวิชญ์, ก้าง ปลาทู, กอหญ้า กอยุ่ง, รพีกาญจน์, Black Sword, ปลายฝน คนงาม, ตูมตาม, น้ำหนาว, Paper Flower, ธ.ธงไทย, ลมหนาว ในสายหมอก, ขวดเก่า, พรานไพร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลิตเติลเกิร์ล
|
Permalink: Re: นิราศเมืองแกลง : สุนทรภู่
๏ ถึงหย่อมย่านบ้านบางมังกงนั้น ดูเรียงรันเรือนเรียบชลาสินธุ์ แต่ล้วนบ้านตากปลาริมวาริน เหม็นแต่กลิ่นเน่าอบตลบไป
เห็นศาลเจ้าเหล่าเจ๊กอยู่เซ็งแซ่ ปูนทะก๋งองค์แก่ข้างเพศไสย เกเลเอ๋ยเคยข้ามคงคาลัย ช่วยคุ้มภัยปากอ่าวเถิดเจ้านาย
พอพ้นบ้านลานแลดูปากช่อง เห็นทิวท้องสมุทรไทน่าใจหาย แลทะเลเลี่ยนลาดล้วนหาดทราย ทั้งสามนายจัดแจงโจงกระเบน
ไปตามช่องล่องออกไปนอกรั้ว เห็นเมฆมัวลมแดงดังแสงเสน สักประเดี๋ยวเหลียวดูลำพูเอน ยอดระเนนนาบน้ำอยู่รำไร
ป่าแสมแลเห็นอยู่ริ้วริ้ว ให้หวิวหวิววาบวับฤทัยไหว จะหลบหลีกเข้าฝั่งก็ยังไกล คลื่นก็ใหญ่โยนเรือเหลือกำลัง
สงสารแสงแข็งข้อจนขาสั่น เห็นเรือหันโกรธบ่นเอาคนหลัง น้ำจะพัดปัดตีไปสีชัง แล้วคุ้มคลั่งเงี่ยนยาทำตาแดง
ปลอบเจ้าพุ่มพึมพำว่ากรรมแล้ว อุตส่าห์แจวเข้าเถิดพ่อให้ข้อแข็ง สงสารน้อยหน้าจ๋อยนั่งจัดแจง คิดจะแต่งตัวตายไม่พายเรือ
พี่แข็งขืนฝืนภาวนานิ่ง แลตลิ่งไรไรยังไกลเหลือ เห็นเกินรอยบางปลาสร้อยอยู่ท้ายเรือ คลื่นก็เฝือฟูมฟองคะนองพราย
เห็นจวนจนบนเจ้าเขาสำมุก จงช่วยทุกข์ถึงที่จะทำถวาย พอขาดคำน้ำขึ้นทั้งคลื่นคลาย ทั้งสามนายหน้าชื่นค่อยเฉื่อยมา
หยุดตะพานย่านกลางบางปลาสร้อย พุ่มกับน้อยสรวลสันต์ต่างหรรษา นายแสงหายคลายโทโสที่โกรธา ชักกัญชานั่งกริ่มยิ้มละไม
แล้วหุงหาอาหารสำราญรื่น จนเที่ยงคืนขึ้นศาลาได้อาศัย ฟังเสียงคลื่นครื้นครั่นสนั่นไป ดูมือในเมฆานภาภางค์
พี่เล็งแลดูกระแสสายสมุทร ละลิ่วสุดสายตาเห็นฟ้าขวาง เป็นฟองฟุ้งรุ่งเรืองอยู่รางราง กระเด็นพร่างพรายพราวราวกับพลอย
เห็นคล้ายคล้ายปลาว่ายเฉวียนฉวัด ระลอกซัดสาดกระเซ็นขึ้นเต้นหยอย ฝูงปลาใหญ่ไล่โลดกระโดดลอย น้ำก็พลอยพร่างพร่างกลางคงคา ฯ
นิราศเมืองแกลง ผู้แต่ง : สุนทรภู่
|
รายนามผู้เยี่ยมชม : รพีกาญจน์, กร กรวิชญ์, ปลายฝน คนงาม, หญิงหนิง พราววลี, Paper Flower, กอหญ้า กอยุ่ง, Black Sword, ก้าง ปลาทู, น้ำหนาว, ตูมตาม, ลมหนาว ในสายหมอก, ขวดเก่า, พรานไพร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
รินดาวดี
ผู้บริหารเว็บ
จำนวนผู้เยี่ยมชม: 7057
ออฟไลน์ID Number: 3
จำนวนกระทู้: 746
จะสู้เพื่ออยู่ต่อไป
|
Permalink: Re: นิราศเมืองแกลง : สุนทรภู่
๏ แลทะเลแล้วก็ให้อาลัยนุช ไม่สร่างสุดโศกสิ้นถวิลหา จนอุทัยไตรตรัสจำรัสตา เห็นเคหาเรียงรายริมชายทะเล
ดูเรือแพแต่ละลำล้วนโปะโหละ พวกเจ๊กจีนกินโต๊ะเสียงโหลเหล บ้างลุยเลนล้วงปูดูโซเซ สมคะเนใส่ข้องเที่ยวมองคอย
อันนารีที่ยังสาวพวกชาวบ้าน ถีบกระดานถือตะกร้าเที่ยวหาหอย ดูแคล่วคล่องล่องแล่นแฉลบลอย เอาขาห้อยทำเป็นหางไปกลางเลน
อันพวกเขาชาวประโมงไม่โหย่งหยิบ ล้วนตีนถีบปากกัดขัดเขมร จะได้กินข้าวเช้าก็ราวเพล ดูจัดเจนโลดโผนในโคลนตม
จึงมั่งคั่งตั้งบ้านในการบาป แต่ต้องสาปเคหาให้สาสม จะปลูกเรือนก็มิได้ใส่ปั้นลม ใครขืนทำก็ระทมด้วยเพลิงลาม
โอ้ดูเรือนเหมือนอกเราไร้คู่ ผู้ใดดูจึงไม่ออกเอี่ยมสนาม หรือต้องสาปบาปหลังยังติดตาม ผู้หญิงงามจึงไม่มีปรานีเลย
จะรักใครเขาก็ไม่เมตตาตอบ สมประกอบได้แต่สอดกอดเขนย เอ็นดูเขาเฝ้านึกนิยมเชย โอ้ใจเอ๋ยจะเป็นกรรมนั้นร่ำไป
พลางรำพึงถึงทางที่กลางเถื่อน จึงคล้อยเคลื่อนนาวาเข้าอาศัย มีมิตรชายท้ายย่านเป็นบ้านไทย สำนักในคูหาขุนจ่าเมือง ฯ
นิราศเมืองแกลง ผู้แต่ง : สุนทรภู่
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เนต
|
รายนามผู้เยี่ยมชม : รพีกาญจน์, Paper Flower, Black Sword, ปลายฝน คนงาม, กร กรวิชญ์, น้ำหนาว, กอหญ้า กอยุ่ง, ตูมตาม, หญิงหนิง พราววลี, ก้าง ปลาทู, ลมหนาว ในสายหมอก, ขวดเก่า, พรานไพร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลิตเติลเกิร์ล
|
Permalink: Re: นิราศเมืองแกลง : สุนทรภู่
๏ ใครพบพักตร์เขาก็ทักว่าทรงซูบ จะดูรูปตัวเองก็ผอมเหลือง ซังตายชื่นฝืนฤทัยให้ประเทือง เที่ยวชำเลืองแลชมตลาดเรียง
เป็นสองแถวแนวถนนคนสะพรั่ง บ้างยืนบ้างนั่งร้านประสานเสียง ดูรูปร่างนางบรรดาแม่ค้าเคียง เห็นเกลี้ยงเกลี้ยงกล้องแกล้งเป็นอย่างกลาง
ขายหอยแครงแมงภู่กับปูม้า หมึกแมงดาหอยดองรองกระถาง พวกเจ๊กจีนสินค้าเอามาวาง มะเขือคางแพะเผือกผักกาดดอง
ที่ชายผ้าหน้าถังก็เปิดโถง ล้วนเบี้ยโป่งหญิงชายมาจ่ายของ สักยี่สิบหยิบออกเป็นกอบกอง พี่เที่ยวท่องทัศนาจนสายัณห์
ดูก็งามตามประสาพนาเวศ ไม่นวลเนตรเหมือนหนึ่งในไอศวรรย์ แต่แรมค้างบางปลาสร้อยได้สามวัน ก็ชวนกันเลยลาขุนจ่าเมือง
พอฟ้าขาวดาวเดือนลงเลื่อนลด อร่ามรถสุริยาเวหาเหลือง จากเคหาชลนาพี่นองเนือง ขืนประเทืองปล้ำทุกข์มาตามทาง
พอพ้นบ้านลานแลล้วนทุ่งเลี่ยน หนทางเตียนตัดเข้าภูเขาขวาง ดูกรวดทรายพรายงามเหมือนเงินราง หยาดน้ำค้างข้อหลุมที่ขุมควาย
ดูสีขาวราวกับน้ำตาลโตนด ที่หว่างโขดขอบผาศิลาฉลาย ริมทางเถื่อนเรือนเหย้ามีรายราย เห็นฝูงควายปล่อยเกลื่อนอยู่กลางแปลง
ถึงหมองมนมีตำบลชื่อบ้านไร่ เขาถากไม้ทุกประเทศทุกเขตแขวง ต้องเดินเฉียงเลี่ยงลัดตัดทแยง ตามนายแสงนำทางไปกลางไพร
กำดัดแดดแผดร้อนทุกขุมขน ไม่มีต้นพฤกษาจะอาศัย ล้วนละแวกแฝกคาป่ารำไร จนสุดไร่เลียบริมทะเลมา
ตะวันคล้อยหน่อยหนึ่งถึงบางพระ ดูระยะบ้านนั้นก็แน่นหนา พอพบเรือนเพื่อนชายชื่อนายมา เขาโอภาต้อนรับให้หลับนอน ฯ
นิราศเมืองแกลง ผู้แต่ง : สุนทรภู่
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เนต
|
รายนามผู้เยี่ยมชม : น้ำหนาว, Paper Flower, กอหญ้า กอยุ่ง, กร กรวิชญ์, รพีกาญจน์, ก้าง ปลาทู, Black Sword, ตูมตาม, ปลายฝน คนงาม, หญิงหนิง พราววลี, ลมหนาว ในสายหมอก, ขวดเก่า, พรานไพร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลิตเติลเกิร์ล
|
Permalink: Re: นิราศเมืองแกลง : สุนทรภู่
๏ พอรุ่งแสงสุริยาลีลาลาศ ลงเลียบหาดหวนคะนึงถึงสมร เห็นกรวดทรายชายทะเลชโลทร ละเอียดอ่อนดังละอองสำลีดี
ดูกาบหอยรอบคลื่นกระเด็นสาด ก็เกลื่อนกลาดกลางทรายประพรายสี เป็นหลายอย่างลางลูกก็เรียวรี โอ้เช่นนี้แม่มาด้วยจะดีใจ
จะเชยชมก้มเก็บไปกลางหาด เห็นประหลาดก็จะถามตามสงสัย พี่ไม่รู้ก็จะชวนสำรวลไป ถึงเหนื่อยใจจะค่อยเบาบรรเทาคลาย
โอ้ยามนี้พี่เห็นแต่พักตร์เพื่อน ไม่ชื่นเหมือนสุดสวาทที่มาดหมาย กลั้นน้ำตามาจนสุดที่หาดทราย เห็นเรือรายโรงเรียงเคียงเคียงกัน
อันชื่อนี้ศรีมหาราชาชาติ ขึ้นจากหาดเข้าป่าพนาสัณฑ์ ค่อยเลียบเดินเนินโขดสิงขรคัน เสียงจักจั่นแซ่เซ็งวังเวงใจ
สองข้างทางนางไม้ไพรสงัด ไม่แกว่งกวัดก้านกิ่งประวิงไหว เย็นระรื่นชื่นชุ่มชอุ่มใบ หนาวฤทัยโทมนัสระมัดกาย
เสียงนกร้องก้องกู่กันกลางป่า ฟังภาษาสัตว์ไพรก็ใจหาย จนออกดงลงเดินเนินสบาย ค่อยเคลื่อนคลายรอเรียงมาเคียงกัน
ถึงเขาขวางว่างเวิ้งชะวากวุ้ง เขาเรียกทุ่งสงขลาพนาสัณฑ์ เป็นป่ารอบขอบเขินเนินอรัญ นกเขาขันคู่เรียกกันเพรียกไพร
บ้างถาบถาพาคู่ลงฟุบฝุ่น เห็นคนผลุนโผผินบินไถล บ้างก่งคอคูคูกุกกูไป ฝูงเขาไฟฟุบแฝงที่แฝกฟาง
โอ้ปักษีมีคู่ที่ชูชื่น สำราญรื่นปกปิดด้วยปีกหาง พี่เปลี่ยวใจอายนกเพราะห่างนาง มาเดินกลางดงแดนแสนกันดาร
แล้วรีบรุดไปจนสุดที่ทิวทุ่ง ถึงบางละมุงพบน้ำลำละหาน เป็นประเทศเขตนิคมกรมการ มีเรือนบ้านแออัดทั้งวัดวา
น้ำตาตกอกโอ้อนาถเหนื่อย ให้มึนเมื่อยขัดข้องทั้งสองขา ลงหยุดหย่อนผ่อนนั่งที่ศาลา ต่างระอาอ่อนจิตระอิดแรง
ลงอาบน้ำลำห้วยพอเหนื่อยหาย แต่เส้นสายรุมรึงให้ขึงแข็ง สลดใจเห็นจะไม่ถึงเมืองแกลง แต่นายแสงวอนว่าให้คลาไคล
พี่ดูดวงสุริย์ฉายก็บ่ายคล้อย ชวนพุ่มน้อยจากศาลาที่อาศัย ออกพ้นย่านบ้านบางละมุงไป ค่อยคลายใจจรเลียบชลามา ฯ
นิราศเมืองแกลง ผู้แต่ง : สุนทรภู่
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เนต |
รายนามผู้เยี่ยมชม : ปลายฝน คนงาม, น้ำหนาว, กร กรวิชญ์, ก้าง ปลาทู, รพีกาญจน์, Black Sword, ตูมตาม, กอหญ้า กอยุ่ง, Paper Flower, หญิงหนิง พราววลี, ลมหนาว ในสายหมอก, ขวดเก่า, พรานไพร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลิตเติลเกิร์ล
|
Permalink: Re: นิราศเมืองแกลง : สุนทรภู่
๏ ในกระแสแลล้วนแต่โป๊ะล้อม ลงอวนอ้อมโอบสกัดเอามัจฉา โอ้คิดเห็นเอ็นดูหมู่แมงดา ตัวเมียพาผัวลอยเที่ยวเล็มไคล
เขาจับตัวผัวทิ้งไว้กลางน้ำ ระลอกซ้ำสาดซัดให้ตัดษัย พอเมียตายฝ่ายผัวก็บรรลัย โอ้เหมือนใจที่พี่รักภัคินี
แม้น้องตายพี่จะวายชีวิตด้วย เป็นเพื่อนม้วยมิ่งแม่ไปเมืองผี รำจวนจิตคิดมาในวารี จนถึงที่ศาลาบ้านนาเกลือ
หยุดประทับดับดวงพระสุริย์แสง ยิ่งโรยแรงร้อนรนนั้นล้นเหลือ จะเคี้ยวข้าวตละคำเอาน้ำเจือ พอกลั้วเกลี้อกล้ำกลืนค่อยชื่นใจ
ทั้งล้าเลื่อยเหนื่อยอ่อนนอนสนิท จนอาทิตย์แย้มเยี่ยมเหลี่ยมไศล ถอนสะอื้นตื่นตายังอาลัย รำจวนใจจรจากศาลามา
เข้าเดินดงพงชัฏสงัดเงียบ เย็นยะเยียบน้ำค้างพร่างพฤกษา ออกชะวากปากทุ่งพัทยา นายแสงพาเลี้ยวหลงที่วงเวียน
บุกละแวกแฝกแขมแอร่มรก กับกอกกสูงสูงเสมอเศียร ด้วยน้ำฝนล้นลงหนทางเกวียน ขึ้นโขดเตียนตอกรอกยอกระยำ
กลัวปลิงเกาะเลาะลัดตัดเขมร ลงลุยเลนพรวดพราดพลาดถลำ ถึงแนวน่องย่องก้าวเอาเท้าคลำ แต่ท่องน้ำอยู่จนเที่ยงจึงพบทาง
พอยกเท้าก้าวเดินบนเนินแห้ง ทั้งขาแข้งเข่าข้อให้ขัดขวาง เจ็บระบมคมหญ้าคาระคาง ค่อยย่องย่างเหยียบฝุ่นให้งุนโงง
เห็นพฤกษาไม้มะค่ามะขามข่อย ทั้งไทรย้อยยอดโยนโดนตะโขง เหมือนไม้ดัดจัดวางข้างพระโรง เป็นพุ่มโพรงสาขาน่าเสียดาย
เดินพินิจเหมือนคิดสมบัติบ้า จะใคร่หาต้นไม้เข้าไปถวาย นี่เหน็ดเหนื่อยเลื่อยล้าบรรดาตาย แสนเสียดายดูเดินจนเกินไป
นิราศเมืองแกลง ผู้แต่ง : สุนทรภู่
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เนต
|
รายนามผู้เยี่ยมชม : น้ำหนาว, รพีกาญจน์, Black Sword, ปลายฝน คนงาม, กร กรวิชญ์, กอหญ้า กอยุ่ง, ตูมตาม, Paper Flower, ก้าง ปลาทู, หญิงหนิง พราววลี, ลมหนาว ในสายหมอก, ขวดเก่า, พรานไพร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลิตเติลเกิร์ล
|
Permalink: Re: นิราศเมืองแกลง : สุนทรภู่
ถึงท้องธารศาลเจ้าริมเขาขวาง พอได้ทางลงมหาชลาไหล เข้าถามเจ๊กลูกจ้างตามทางไป เป็นจีนใหม่อ้อแอ้ไม่แน่นอน
ร้องไล้ขื่อมือชี้ไปที่เขา ก็ดื้อเดาเลียบเดินเนินสิงขร ศิลาแลเป็นชะแง่ชะงักงอน บ้างพรุนพรอนแตกกาบเป็นคราบไคล
ต้องเลี่ยงเลียบเหยียบยอกเอาปลาบแปลบ ถึงที่แคบเป็นเขินเนินไศล ค่อยตะกายป่ายปีนเปะปะไป จะขาดใจเสียด้วยเหนื่อยทั้งเมื่อยกาย
ถึงที่โขดต้องกระโดดขึ้นบนแง่ ก่นเอาแม่จีนใหม่นั้นใจหาย บอกว่าใกล้ไกลมาบรรดาตาย ทั้งแค้นนายแสงนำไม่จำทาง
ทำซมเซอะเคอะคะมาปะเขา แต่โดยเมากัญชาจนตาขวาง แกไขหูสู้นิ่งไปตามทาง ถึงพื้นล่างแลลาดล้วนหาดทราย
ต่างโหยหิวนิ่วหน้าสองขาแข็ง ในคอแห้งหอบรนกระหนกระหาย กลืนกระเดือกเกลือกลิ้นกินน้ำลาย เจียนจะตายเสียด้วยร้อนอ่อนกำลัง
น้ำก็นองอยู่ในท้องชลาสินธุ์ จะกอบกินเค็มขมไม่สมหวัง เหมือนไร้คู่อยู่ข้างกำแพงวัง จะเกี้ยวมั่งก็จะเฆี่ยนเอาเจียนตาย
ทั้งนี้เพราะเคราะห์กรรมกระทำไว้ นึกอะไรจึงไม่สมอารมณ์หมาย แล้วปลอบน้องสองราปรีชาชาย มาถึงท้ายทิวป่านาจอมเทียน
เห็นบ่อน้ำร่ำดื่มเอาโดยอยาก พออ้าปากเหม็นหืนให้คลื่นเหียน ค่อยมีแรงแข็งใจไปทางเกวียน ไม่แวะเวียนเดาเดินดำเนินไป ฯ
นิราศเมืองแกลง ผู้แต่ง : สุนทรภู่
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เนต |
รายนามผู้เยี่ยมชม : Paper Flower, หญิงหนิง พราววลี, กร กรวิชญ์, กอหญ้า กอยุ่ง, รพีกาญจน์, Black Sword, ปลายฝน คนงาม, น้ำหนาว, ตูมตาม, ก้าง ปลาทู, ลมหนาว ในสายหมอก, ขวดเก่า, พรานไพร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลิตเติลเกิร์ล
|
Permalink: Re: นิราศเมืองแกลง : สุนทรภู่
๏ ถึงห้วยขวางตัดทางเข้าไต่ถาม พบขุนรามเรียกหาเข้าอาศัย กินข้าวปลาอาหารสำราญใจ เขาแต่งให้หลับนอนผ่อนกำลัง
สงสารแสงแสนสุดเมื่อหยุดพัก เฝ้านั่งชักกัญชากับตาสัง เสียงขาคะอยู่จนพระเคาะระฆัง ต่างร่ำสั่งฝากรักกันหนักครัน
แสนวิตกอกพี่เมื่ออ้างว้าง ถามถึงทางที่จะไปในไพรสัณฑ์ ชาวบ้านบอกมรคาว่ากว่าพัน สะกิดกันแกล้วกล้าเป็นน่ากลัว
ยิ่งหวาดจิตคิดคุณพระชินสีห์ กับชนนีบิตุเรศบังเกิดหัว ข้าตั้งใจไปหาบิดาตัว ให้พ้นชั่วที่ชื่อว่าไภยันต์
อธิษฐานแล้วสะท้านสะท้อนอก สำเนียงนกเพรียกไพรทั้งไก่ขัน เมฆแอร่มแย้มแยกแหวกตะวัน ก็ชวนกันอำลาเขาคลาไคล
เขม้นเมินเดินตรงเข้าดงดึก ดูซึ้งซึกมิได้เห็นพระสุริย์ใส เสียงฟ้าร้องก้องลั่นสนั่นไพร ไม้ไหวไหวเหลียวหลังระวังคอย
สงัดเงียบเยียบเย็นยะเยือกอก น้ำค้างตกหยดเหยาะลงเผาะผอย พฤกษาสูงยูงยางสล้างลอย ดูชดช้อยชื่นชุ่มชอุ่มใบ
ถึงปากช่องหนองชะแง้วเข้าแผ้วถาง แม้นค่ำค้างอรัญวาได้อาศัย เป็นที่ลุ่มขุมขังคงคาลัย วังเวงใจรีบเดินไม่เมินเลย
หนทางรื่นพื้นทรายละเอียดอ่อน ในดงดอนดอกพะยอมหอมระเหย หายละหวยด้วยพระพายมาชายเชย ชะแง้เงยแหงนทัศนามา
ถึงบางไผ่ไม่เป็นไผ่เป็นไพรชัฏ แสนสงัดเงียบในไพรพฤกษา ต้องข้ามธารผ่านเดินเนินวนา อรัญวาอ้างว้างในกลางดง
ถึงพงค้อคอเขาเป็นโขดเขิน ต้องขึ้นเนินภูผาป่าระหง ส่งกระทั่งหลังโคกเป็นโตรกตรง เมื่อจะลงก็ต้องวิ่งเหมือนลิงโลน
ไต่ข้ามห้วยเหวผาจนขาขัด ต้องกำดัดวิ่งเต้นดังเล่นโขน ทั้งรากยางขวางโกงตะโขงโคน สะดุดโดนโดดข้ามไปตามทาง ฯ
นิราศเมืองแกลง ผู้แต่ง : สุนทรภู่
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เนต
|
รายนามผู้เยี่ยมชม : รพีกาญจน์, ปลายฝน คนงาม, กร กรวิชญ์, ตูมตาม, กอหญ้า กอยุ่ง, Black Sword, ก้าง ปลาทู, ลมหนาว ในสายหมอก, หญิงหนิง พราววลี, Paper Flower, น้ำหนาว, ขวดเก่า, พรานไพร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
กอหญ้า กอยุ่ง
|
Permalink: Re: นิราศเมืองแกลง : สุนทรภู่
๏ ถึงพุดรสาครเป็นพวยพุ น้ำทะลุออกจากชะวากขวาง ดูซึ้งใสไหลเชี่ยวเป็นเกลียวกลาง สไบบางชุบซับกับอุรา
แล้วขึ้นเนินเดินในดงไม้หอม สะพรั่งพร้อมปรูปรายปฤษณา ยามพระพายชายเชยรำเพยมา หอมบุปผารื่นรื่นชื่นอารมณ์
เหมือนกลิ่นปรางนางปนสุคนธ์รื่น คิดถึงคืนเคียงน้องประคองสม ถอนสะอื้นยืนเด็ดลำดวนดม พี่นึกชมต่างนางไปกลางไพร
ถึงห้วยอีร้าแลระย้าล้วนสายหยุด ดอกนั้นสุดที่จะดกดูไสว กะมองกะเมงนมแมวเป็นแถวไป ล้วนลูกไม้กลางป่าทั้งหว้าพลอง
สะท้อนหล่นใต้ต้นออกเกลื่อนกลิ้ง ฝูงค่างลิงกินเล่นเป็นเจ้าของ ต่างเก็บเคี้ยวเปรี้ยวปรายเสียก่ายกอง แต่โดยลองเลือกชิมจนอิ่มไป
ถึงโตรกตรวยห้วยพระยูนจะหยุดร้อน เห็นแรดนอนอยู่ในดงให้สงสัย เรียกกันดูด้วยไม่รู้ว่าสัตว์ใด เห็นหน้าใหญ่อย่างจระเข้ตะคุกตัว
มันเห็นหน้าทำตากระปริบนิ่ง เห็นหลายสิ่งคอคางทั้งหางหัว รู้ว่าแรดกินหนามให้คร้ามกลัว ขยับตัววิ่งพัลวันไป ฯ
นิราศเมืองแกลง ผู้แต่ง : สุนทรภู่
|
รายนามผู้เยี่ยมชม : ตูมตาม, รพีกาญจน์, ขวดเก่า, พรานไพร, Black Sword, กร กรวิชญ์, ปลายฝน คนงาม, ลมหนาว ในสายหมอก, ก้าง ปลาทู, น้ำหนาว, หญิงหนิง พราววลี, Paper Flower
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|