กอหญ้า กอยุ่ง
|
Permalink: Re: นิราศเมืองแกลง : สุนทรภู่
<<< ก่อนหน้า
๏ ครู่หนึ่งถึงชะวากชากลูกหญ้า ล้วนพฤกษายางยูงสูงไสว แต่ล้วนทากตะเละลำรำพูไพร ไต่ใบไม้ยูงยางมากลางแปลง
กระโดดเผาะเกาะผับกระหยับคืบ ถีบกระทืบมิใคร่หลุดสุดแสยง ปลดที่ตีนติดขาระอาแรง ทั้งขาแข้งเลือดโซมชะโลมไป
ออกเดินถี่หนีทากถึงชากขาม เป็นสนามน้ำท่าได้อาศัย เห็นรอยคนแรมค้างอยู่กลางไพร ขึ้นต้นไม้หักรังไว้เรียงราย
เห็นลิงค่างบ่างชะนีวะหวีดโหวย กระหึมโหยห้อยไม้น่าใจหาย เสียงผัวผัวตัวเมียเที่ยวโยนกาย เห็นคนอายแอบอิงกับกิ่งยาง
โอ้ชะนีเวทนาเที่ยวหาผัว เหมือนตัวพี่จากน้องให้หมองหมาง ชะนีเพรียกเรียกชายอยู่ปลายยาง พี่เรียกนางนุชน้องอยู่ในใจ
เห็นป่าสูงฝูงนกในดงดึก หวนระลึกถึงสุดาน้ำตาไหล จักจั่นร้องพร้องเพราะเสนาะไพร ทั้งเสียงไก่เถื่อนขันสนั่นเนิน
พฤกษาเบียดเสียดสีดังปี่แก้ว วิเวกแว่วหว่างลำเนาภูเขาเขิน สดับฟังวังเวงเป็นเพลงเพลิน ต้องรีบเดินโดยด่วนด้วยจวนเย็น
ถึงห้วยโป่งเห็นธารละหานไหล คงคาใสปลาว่ายคล้ายคล้ายเห็น มีกรวดแก้วแพรวพรายรายกระเด็น บ้างแลเห็นเป็นสีบุษราคัม
ขืนอารมณ์ชมเชยเลยลีลาศ พระพายพาดพัดเรื่อยมาเฉื่อยฉ่ำ ทั้งสองข้างมรคาป่าระกำ สล้างลำแลสลับอยู่กับกอ
หอมบุปผาสาโรชมารื่นรื่น ต่างหยุดยืนใจหายเสียดายหนอ แม้นอยู่เคียงเวียงชัยเห็นไม่พอ จะตัดต่อเรือแล่นเล่นตามกัน
ทลายลูกสุกแลดูแออัด เอาดาบตัดชิมไปในไพรสัณฑ์ มันแสนเปรี้ยวเบี้ยวหน้าเข้าหากัน ออกเข็ดฟันเป็นจะตายด้วยรายชิม ฯ
นิราศเมืองแกลง ผู้แต่ง : สุนทรภู่
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เนต |
รายนามผู้เยี่ยมชม : รพีกาญจน์, Black Sword, กร กรวิชญ์, ลิตเติลเกิร์ล, ตูมตาม, ขวดเก่า, ปลายฝน คนงาม, น้ำหนาว, ก้าง ปลาทู, ลมหนาว ในสายหมอก, Paper Flower, พรานไพร, หญิงหนิง พราววลี, หนูหนุงหนิง, อิงดาว พราวฟ้า, ธนุ เสนสิงห์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลิตเติลเกิร์ล
|
Permalink: Re: นิราศเมืองแกลง : สุนทรภู่
๏ ถึงห้วยพร้าวเท้าเมื่อยออกเลื่อยล้า เห็นผิดฟ้าฝนย้อยลงหยิมหยิม สุริย์ฉายบ่ายเยื้องเมืองประจิม อุระปิ้มศรปักสลักทรวง
ออกเดินรีบถีบถอนไปทุกย่าง กลัวจะค้างค่ำลงในดงหลวง ด้วยครื้นครึกพฤกษาลดาพวง ไม่เห็นดวงสุริยาเวลาไร
พอเต็มตึงถึงสุนัขกะบากนั้น รอยเขาฟันพฤกษาอยู่อาศัย เห็นรอยคนปนควายค่อยคลายใจ รู้ว่าใกล้ออกดงเดินตะบึง
แต่ย่างย้ายทรายฝุ่นขยุ่นยุบ ยิ่งเหยียบฟุบขาแข็งให้แข็งขึง ยิ่งจวนเย็นเส้นสายให้ตายตึง ดูเหมือนหนึ่งเหยียบโคลนให้โอนเอน
ออกปากช่องท้องทุ่งที่ตลิ่ง ต่างเกลือกกลิ้งลงทั้งรกถกเขมร ด้วยล้าเลื่อยเหนื่อยอ่อนนอนระเนน จนสุริเยนทร์ลับไม้ชายทะเล
ผลัดกันทำย่ำเหยียบแล้วยืนหยัด กระดูกดัดผัวะเผาะให้โผเผ ค่อยย่างเท้าก้าวเขยกดูเกกเก ออกโซเซเดินข้ามตามตะพาน
เป็นทุ่งแถวมีแนวแม่น้ำอ้อม ระยะหย่อมเคหาน่าสนาน เป็นเนินสวนล้วนเหล่ามะพร้าวตาล เข้าลับบ้านทับม้าลีลาไป
พอสิ้นดงตรงบากออกปากช่อง ถึงระยองเหย้าเรือนดูไสว แวะเข้าย่านบ้านเก่าค่อยเบาใจ เขาจุดไต้ต้อนรับให้หลับนอน
ฝ่ายนายแสงถึงตำแหน่งสำนักน้อง เขายิ้มย่องชมหลานคลานสลอน พี่ว้าเหว่เอกาอนาทร ด้วยจะจรต่อไปเป็นหลายคืน
ครั้นรุ่งเช้าเท้าบวมทั้งสองข้าง จะย่องย่างสุดแรงจะแข็งขืน อยู่ระยองสองวันสู้กลั้นกลืน ค่อยแช่มชื่นชวนกันว่าจะคลาไคล
นายแสงหนีลี้หลบไม่พบเห็น โอ้แสนเข็ญคิดน่าน้ำตาไหล น้อยหรือเพื่อนเหมือนจะร่วมชีวาลัย มาสูญใจจำจากเมื่อยากเย็น
จึงกรวดน้ำร่ำว่าต่ออาวาส อันชายชาตินี้หนอไม่ขอเห็น มาลวงกันปลิ้นปลอกหลอกทั้งเป็น จะชี้เช่นชั่วช้าให้สาใจ
เดชะสัตย์อธิษฐานประจานแจ้ง ให้เรียกแสงเทวทัตจนตัดษัย เหมือนชื่อตั้งหลังพิหารเขียนถ่านไฟ ด้วยน้ำใจเหมือนมินหม้อทรชน
แล้วชวนสองน้องรักร่วมชีวิต ให้เปลี่ยวจิตไม่แจ้งรู้แห่งหน จากระยองย่องตามกันสามคน เลียบถนนคันนาป่ารำไร ฯ
นิราศเมืองแกลง ผู้แต่ง : สุนทรภู่
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เนต |
รายนามผู้เยี่ยมชม : กร กรวิชญ์, Paper Flower, น้ำหนาว, พรานไพร, กอหญ้า กอยุ่ง, ก้าง ปลาทู, รพีกาญจน์, Black Sword, ปลายฝน คนงาม, ตูมตาม, หญิงหนิง พราววลี, ลมหนาว ในสายหมอก, ขวดเก่า, หนูหนุงหนิง, ธนุ เสนสิงห์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลิตเติลเกิร์ล
|
Permalink: Re: นิราศเมืองแกลง : สุนทรภู่
๏ ถึงบ้านนาตาขวัญสำคัญแน่ เห็นยายแก่แวะถามตามสงสัย เขาชี้นิ้วแนะทิวหนทางไป ประจักษ์ใจจำแน่ดำเนินมา
ถึงบ้านแสงทางแห้งเห็นทุ่งกว้าง เฟื่อนหนทางทวนทบตลบหา บุกละแวกแฝกแขมกับหญ้าคา จนแดดกล้ามาถึงย่านบ้านตะพง
มีเคหาอารามงามระรื่น ด้วยพ่างพื้นพุ่มไม้ไพรระหง ตัดกระพ้อห่อได้ทุกไร่กง พี่หลีกลงทางทุ่งกระทอลอ
เห็นสาวสาวชาวไร่เขาไถที่ บ้างพาทีอือเออเสียงเหนอหนอ แลขี้ไคลใส่ตาบเป็นคราบคอ ผ้าห่มห่อหมากแห้งตาแบงมาน
พี่สู้เมินเดินตรงเข้าดงสูง เสียงนกยูงเบญจวรรณขึ้นขันขาน คิดถึงน้องหมองใจอาลัยลาน แม้นแจ้งการว่าพี่จากอยุธยา
จะเศร้าสร้อยคอยท่าเป็นทุกข์ร้อน ถึงยามนอนยามกินถวิลหา พี่ก็แสนสุดยากลำบากมา ทั้งเดินป่าปิ้มกายจะวายวาง
ต้องเวียนวงหลงทบตลบเลี้ยว ด้วยรกเรี้ยวห้วยหนองเป็นคลองขวาง ระหกระเหินเดินภาวนาพลาง พอพบทางลงถึงท้องทะเลวน
เสียงพิลึกครึกครึ้มกระหึ่มคลื่น ร่มระรื่นรุกขาพฤกษาสน เหล่าต้นโปลงโกงกางกิ่งพิกล สล้างต้นเต็งตั้งสะพรั่งตา
ถึงปากช่องคลองกรุ่นเห็นคลองกว้าง มีโรงร้างเรียงรายชายพฤกษา เป็นชุมรุมหน้าน้ำเขาทำปลา ไม่รอรารีบเดินดำเนินพลาง
ถึงศาลเจ้าอ่าวสมุทรที่สุดหาด เลียบลีลาศขึ้นตามช่องที่คลองขวาง ถึงบ้านแกลงลัดบ้านไปย่านกลาง เห็นฝูงนางสานเสื่อนั้นเหลือใจ
แต่ปากพลอดมือสอดขยุกขยิก จนมือหงิกงอแงไม่แบได้ เป็นส่วยบ้านสานส่งเข้ากรุงไกร เด็กผู้ใหญ่ทำเป็นไม่เว้นคน ฯ
นิราศเมืองแกลง ผู้แต่ง : สุนทรภู่
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เนต |
รายนามผู้เยี่ยมชม : รพีกาญจน์, กร กรวิชญ์, น้ำหนาว, ตูมตาม, Black Sword, ปลายฝน คนงาม, หญิงหนิง พราววลี, กอหญ้า กอยุ่ง, ขวดเก่า, ก้าง ปลาทู, ลมหนาว ในสายหมอก, Paper Flower, หนูหนุงหนิง, ธนุ เสนสิงห์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลิตเติลเกิร์ล
|
Permalink: Re: นิราศเมืองแกลง : สุนทรภู่
๏ พอพลบค่ำสำนักที่เรือนเพื่อน ดูเหย้าเรือนชาวแขวงทุกแห่งหน มุงด้วยไม้หวายโสมแสนพิกล ไม่มีคนแล้วก็ม้วนหลังคาวาง
ครั้นคนมาเอาหลังคาขึ้นคลุมคลี่ ดูก็ดีเร็วรัดไม่ขัดขวาง เวลาค่ำล้ำเหลือด้วยเสือกวาง ปีบมาข้างเรือนเหย้าที่เรานอน
เขาดักจั่นชั้นในใส่สุนัข มันหอบฮักดิ้นโดยแล้วโหยหอน ยิ่งดึกฟังวังเวงวนาดร สังเวชนอนมิใคร่หลับระงับลง
จนรุ่งแจ้งแสงสายไม่วายโศก บริโภคเสร็จสมอารมณ์ประสงค์ จากสถานบ้านแกลงไปกลางดง ต้นรังรงร่มชื่นระรื่นเย็น
เห็นรอกแตแย้ตุ่นออกวุ่นวิ่ง เอาดินทิ้งไล่ทุบตะครุบเล่น ลูกมะม่วงร่วงกลาดดาษกระเด็น เสียดายเป็นกลางไพรมิได้การ
อยู่ใกล้วังดังนี้นางสาวสาว จะโน้มน้าวกิ่งเก็บเกษมศานต์ นึกดำเนินเดินกลางทางกันดาร ถึงตะพานยายเหมสร้างที่กลางไพร
เป็นทุ่งแถวแนวน้ำสกัดกั้น จึงพากันลุยเลียบทะเลไหล แล้วขึ้นข้ามตามตะพานสำราญใจ ลงเลียบในตีนเขาลำเนาทาง
ดูครึ้มครึกพฤกษาป่าสงัด ทะลุลัดตัดทะเลแหลมทองหลาง ต่างเพลิดเพลินเดินว่าเสภาพลาง ถูกขุนช้างเข้าหอหัวร่อเฮ
เห็นไร่แตงแกล้งแวะเข้าริมห้าง ทำถามทางชักชวนให้สรวลเส พอเจ้าของแตงโมปะโลปะเล สมคะเนกินแตงพอแรงกัน
แล้วภิญโญโมทนาลาลีลาศ ลงเลียบหาดปรีดิ์เปรมเกษมสันต์ ถึงปากช่องคลองน้ำเป็นสำคัญ ตำแหน่งนั้นชื่อชะวากปากลาวน
ไม่หยุดยั้งตั้งหน้าเข้าป่ากว้าง ไปตามทางโขดเขินเนินถนน สดับเสียงลิงค่างครางคำรน เหมือนคนกรนโครกครอกทำกลอกตา ฯ
นิราศเมืองแกลง ผู้แต่ง : สุนทรภู่
|
รายนามผู้เยี่ยมชม : กร กรวิชญ์, Black Sword, รพีกาญจน์, หญิงหนิง พราววลี, ขวดเก่า, ปลายฝน คนงาม, ตูมตาม, ก้าง ปลาทู, ลมหนาว ในสายหมอก, Paper Flower, หนูหนุงหนิง, ธนุ เสนสิงห์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลิตเติลเกิร์ล
|
Permalink: Re: นิราศเมืองแกลง : สุนทรภู่
๏ ถึงหย่อมย่านบ้านกร่ำพอค่ำพลบ ประสบพบเผ่าพงศ์พวกวงศา ขึ้นกระฎีที่สถิตท่านบิดา กลืนน้ำตาก็ไม่ฟังเฝ้าพรั่งพราย
ศิโรราบกราบเท้าให้เปล่าจิต รำคาญคิดอาลัยมิใคร่หาย ชะรอยกรรมทำสัตว์ให้พลัดพราย จึงแยกย้ายบิตุราชญาติกา
มาพบพ่อท้อใจด้วยไกลแม่ ให้ตั้งแต่เศร้าสร้อยละห้อยหา ชนนีอยู่ศรีอยุธยา บิดามาอ้างว้างอยู่กลางไพร
ภูเขาขวางทางกั้นอรัญเวศ ข้ามประเทศทุ่งท่าชลาไหล เดินกันดารปานปิ้มจะบรรลัย จึงมาได้เห็นหน้าบิดาตัว
ท่านชูช่วยอวยพรให้ผ่องแผ้ว ดังฉัตรแก้วกางกั้นไว้เหนือหัว อุตส่าห์ฝนไพลทารักษาตัว ค่อยยังชั่วมึนเมื่อยที่เหนื่อยกาย
บรรดาเหล่าชาวบ้านประมาณมาก ต่างมาฝากรักใคร่เหมือนใจหมาย พูดถึงที่ตีโบยขโมยควาย กล่าวขวัญนายเบียดเบียนแล้วเฆี่ยนตี
ถามราคาพร้าขวานจะวานซื้อ ล้วนอออือเอ็งกูกะหนูกะหนี ที่คะขาคำหวานนานนานมี เป็นว่าขี้คร้านฟังแต่ซังตาย
เวลาเช้าก็ชวนกันออกป่า มันโม้หมาไล่เนื้อไปเหลือหลาย พอเวลาสายัณห์ตะวันชาย ได้กระต่ายตะกวดกวางมาย่างแกง
ทั้งแย้บึ้งอึ่งอ่างเนื้อค่างคั่ว เขาทำครัวครั้นไปปะขยะแขยง ต้องอดสิ้นกินแต่ข้าวกับเต้าแตง จนเรี่ยวแรงโรยไปมิใคร่มี
อยู่บุรินกินสำราญทั้งหวานเปรี้ยว ตั้งแต่เที่ยวยากไร้มาไพรศรี แต่น้ำตาลมิได้พานในนาภี ปัถวีวาโยก็หย่อนลง
ด้วยเดือนเก้าข้าวสาเป็นหน้าฝน จึงขัดสนสิ่งของต้องประสงค์ ครั้นแล้วลาฝ่าเท้าท่านบิตุรงค์ ไปบ้านพงค้อตั้งริมฝั่งคลอง
ดูหนุ่มสาวชาวบ้านรำคาญจิต ไม่น่าคิดเข้าในกลอนอักษรสนอง ล้วนวงศ์วานว่านเครือเป็นเชื้อชอง ไม่เห็นน้องนึกน่าน้ำตากระเด็น
แล้วไปชมกรมการบ้านดอนเด็จ ล้วนเลี้ยงเป็ดหมูเนื้อดูเหลือเข็ญ ยกกระบัตรคัดช้อนทุกเช้าเย็น เมียที่เป็นท่านผู้หญิงนั่งปิ้งปลา ฯ
นิราศเมืองแกลง ผู้แต่ง : สุนทรภู่
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เนต
|
รายนามผู้เยี่ยมชม : น้ำหนาว, ตูมตาม, ขวดเก่า, กอหญ้า กอยุ่ง, รพีกาญจน์, Black Sword, ปลายฝน คนงาม, กร กรวิชญ์, ก้าง ปลาทู, ลมหนาว ในสายหมอก, หญิงหนิง พราววลี, Paper Flower, หนูหนุงหนิง, อิงดาว พราวฟ้า, ธนุ เสนสิงห์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลิตเติลเกิร์ล
|
Permalink: Re: นิราศเมืองแกลง : สุนทรภู่
๏ แล้วไปบางทางเถื่อนบ้านพงอ้อ ไม่เหลือหลอหลายตำแหน่งแสวงหา จะเที่ยวดูคนผู้ทำยาตา ไม่เห็นหน้านึกระทดสลดใจ
ถึงคนผู้อยู่เกลื่อนก็เหมือนเปลี่ยว สันโดษเดี่ยวด้วยว่าจิตผิดวิสัย มาอยู่ย่านบ้านกร่ำระกำใจ ชวนกันไปชมทะเลทุกเวลา
เห็นเงื้อมเขาเงาบังขึ้นนั่งเล่น ลมเย็นเย็นอยากดูหมู่มัจฉา แลตลิ่งโล่งลิ่วทิวชลา ดูนาวาแล่นละเลาะริมเกาะเกียน
บ้างก้าวเสียดเฉียดทางไปข้างเขา บ้างออกเข้าข้ามฟากดังฉากเขียน เรือตระเวนเจนแดนเที่ยวแล่นเวียน ดาษเดียรดูสล้างกลางชลา
ครั้นยามเย็นเห็นเหมือนหนึ่งเมฆพลุ่ง เป็นควันฟุ้งราวกับไฟไกลหนักหนา แล้วถอยลงโพลงขึ้นไม่ขาดตา ถามผู้เฒ่าเขาว่าปลามันพ่นฟอง
เห็นจริงจังนั่งนึกพิลึกล้ำ จนพลบค่ำมืดมนขนสยอง ยิ่งอาลัยใจมาอยู่ที่คู่ครอง แม้นแม่น้องได้มาเห็นเหมือนเช่นนี้
จะแอบอิงวิงวอนชะอ้อนถาม ตำแหน่งนามเกาะแก่งแขวงวิถี ได้เชยชื่นรื่นรสสุมาลี แล้วจะชี้ให้แม่ชมยมนา
ไหนตัวพี่นี้จะชมทะเลหลวง จะชมดวงนัยน์เนตรของเชษฐา โอ้อาลัยไกลแก้วกานดามา กลั้นน้ำตามิใคร่หยุดสุดระกำ
เสียดายนักภัคินีเจ้าพี่เอ๋ย ยังชื่นเชยชมชิมไม่อิ่มหนำ มายากเย็นเห็นแต่ผ้าแพรดำ ได้ห่มกรำอยู่กับกายไม่วายตรอม
อยู่บ้านกร่ำทำบุญกับบิตุเรศ ถึงเดือนเศษโศกซูบจนรูปผอม ทุกคืนค่ำกำสรดสู้อดออม ประณตน้อมพุทธคุณกรุณา
ทั้งถือศีลกินเพลเหมือนเช่นบวช เย็นเย็นสวดศักราชศาสนา พยายามตามกิจด้วยบิดา เป็นฐานานุประเทศอธิบดี
จอมกษัตริย์มัสการขนานนาม เจ้าอารามอารัญธรรมรังษี เจริญพรตยศยิ่งมิ่งโมลี กำหนดยี่สิบวสาสถาวร
ได้พบเห็นเป็นทำนุอุปถัมภ์ ก็กรวดน้ำนึกคะนึงถึงสมร ให้ไพบูลย์พูนสวัสดิ์พิพัฒน์พร อย่ารู้ร้อนโรคภัยสิ่งไรพาน
ถึงชาตินี้มิได้สมอารมณ์คิด ด้วยองค์อิศรารักษ์จะหักหาญ ขอให้น้องครองสัตย์ซึ่งปฏิญาณ ได้พบพานภายหน้าเหมือนอารมณ์
พอควรคู่รู้รักประจักษ์จิต ได้ชื่นชิดชมน้องประคองสม ถึงต่างแดนแสนไกลไพรพนม ให้ลอยลมลงมาแอบแนบอุรา
อย่ารู้จักพลักผลิกทั้งหยิกข่วน แขนแต่ล้วนรอยเล็บเจ็บหนักหนา ให้แย้มยิ้มพริ้มพร้อมน้อมวิญญาณ์ แล้วก็อย่าขี้หึงตะบึงตะบอน
ขอแบ่งบุญคุณศีลถวิลถึง ให้ทราบซึ่งโสตทรวงดวงสมร ถึงอยู่ไกลในป่าพนาดร แต่ใจจรจงสวาทไม่คลาดคลา
ไปเที่ยวเล่นเห็นดอกไม้แล้วใจอยาก จะใคร่ฝากดวงเนตรของเชษฐา ก็จนใจไกลทางต่างสุธา แต่น้ำตานี้แลฟูมละลุมลง
เวลาค่ำช้ำใจเข้าไสยาสน์ โอ้อนาถในวนาป่าระหง ยินแต่เสียงลิงค่างที่กลางดง วิเวกวงวันเวศวังเวงใจ
จักจั่นหวั่นแว่วแจ้วแจ้วเสียง เหมือนสำเนียงวนิดาน้ำตาไหล หนาวน้ำค้างพร่างพรมพนมไพร โอ้เจียนใจพี่จะขาดอนาถนึก
ได้แนบหมอนอ่อนอุ่นให้ฉุนชื่น ระรวยรื่นรสลำดวนเมื่อจวนดึก ทั้งหอมแพรดำร่ำยิ่งรำลึก ทรวงสะทึกทุกทุกคืนสะอื้นใจ ฯ
นิราศเมืองแกลง ผู้แต่ง : สุนทรภู่
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เนต |
รายนามผู้เยี่ยมชม : กร กรวิชญ์, กอหญ้า กอยุ่ง, รพีกาญจน์, Black Sword, ปลายฝน คนงาม, หนูหนุงหนิง, ก้าง ปลาทู, น้ำหนาว, ลมหนาว ในสายหมอก, ขวดเก่า, หญิงหนิง พราววลี, Paper Flower, อิงดาว พราวฟ้า, ธนุ เสนสิงห์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลิตเติลเกิร์ล
|
Permalink: Re: นิราศเมืองแกลง : สุนทรภู่
๏ จนเดือนเก้าเช้าค่ำยิ่งพรำฝน ทุกตำบลบ้านกร่ำล้วนน้ำไหล ยิ่งง่วงเหงาเศร้าช้ำระกำใจ จนล้มไข้คิดว่ากายจะวายชนม์
ให้เคลิ้มเคล้นเห็นปีศาจประหวาดหวั่น อินทรีย์สั่นเศียรพองสยองขน ท่านบิดาหาผู้ที่รู้มนต์ มาหลายคนเขาก็ว่าต้องอารักษ์
หลงละเมอเพ้อพูดกับผีสาง ที่เคียงข้างคนผู้ไม่รู้จัก แต่หมอเฒ่าเป่าปัดชะงัดนัก ทั้งเซ่นวักหลายวันค่อยบรรเทา
ให้คนทรงลงผีเมื่อพี่เจ็บ ว่าเพราะเก็บดอกไม้ที่ท้ายเขา ไม่งอนง้อขอสู่ทำดูเบา ท่านปู่เจ้าคุมแค้นจึงแทนทด
ครั้นตาหมอขอโทษก็โปรดให้ ที่จริงใจพี่ก็รู้อยู่ว่าปด แต่ชาวบ้านท่านถือข้างท้าวมด จึงสู้อดนิ่งไว้ในอุรา
ทุกเช้าเย็นเห็นแต่หลานที่บ้านกร่ำ ม่วงกับคำกลอยจิตขนิษฐา เห็นเจ็บปวดนวดฟั้นช่วยฝนยา ตามประสาซื่อตรงเป็นวงศ์วาน
ครั้นหายเจ็บเก็บดอกไม้มาให้บ้าง กลับระคางเคืองข้องกันสองหลาน จะว่ากล่าวน้าวโน้มประโลมลาน ไม่สมานสโมสรเหมือนก่อนมา
ก็จนจิตคิดเห็นว่าเป็นเคราะห์ จึงจำเพาะหึงหวงพวงบุปผา ต้องคร่ำครวญรวนอยู่ดูเอกา ก็เลยลาบิตุรงค์ทั้งวงศ์วาน
ออกจากย่านบ้านกร่ำซ้ำวิโยค กำสรดโศกเศร้าหมองถึงสองหลาน เมื่อไข้หนักรักษาพยาบาล แต่นี้นานจะได้มาเห็นหน้ากัน
ครั้นจะมิหนีมาจะลาเล่า จะสร้อยเศร้าโศกาเพียงอาสัญ จึงพากเพียรเขียนคำเป็นสำคัญ ให้สองขวัญเนตรนางไว้ต่างกาย
อย่าเศร้าสร้อยคอยพี่พอปีหน้า จึงจะมาทำขวัญเหมือนมั่นหมาย ไม่ทิ้งขว้างห่างให้เจ้าได้อาย จงครองกายแก้วตาอย่าอาวรณ์
นิราศเมืองแกลง ผู้แต่ง : สุนทรภู่
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เนต |
รายนามผู้เยี่ยมชม : Black Sword, ขวดเก่า, รพีกาญจน์, ปลายฝน คนงาม, หนูหนุงหนิง, กร กรวิชญ์, ตูมตาม, กอหญ้า กอยุ่ง, อิงดาว พราวฟ้า, หญิงหนิง พราววลี, น้ำหนาว, ก้าง ปลาทู, ธนุ เสนสิงห์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลิตเติลเกิร์ล
|
Permalink: Re: นิราศเมืองแกลง : สุนทรภู่
โอ้จากหลานบ้านกร่ำระกำจิต ก็เพราะคิดถึงแม่หญิงมิ่งสมร สู้ฟูมฝนทนฟ้าอุตส่าห์จร เป็นทุกข์ร้อนแรมทางมากลางไพร
ถึงกรุงศรีอยุธยาขึ้นห้าค่ำ จึงเขียนคำจริงแจ้งแถลงไข ให้ดวงเนตรเชษฐาด้วยอาลัย จงเห็นใจเถิดที่จิตคิดคำนึง
ถึงเจ็บไข้ไม่ตายไม่คลายรัก มีแต่ลักลอบนึกรำลึกถึง ช่วยยิ้มแย้มแช่มชื่นอย่ามึนตึง ให้เหือดหึงลงเสียบ้างจงฟังคำ
พี่อุ้มทุกข์บุกป่ามหารณพ มาหมายพบพูดความกับงามขำ อย่าบิดเบือนเชือนช้าทาระกำ แต่อยู่กร่ำตรอมกายมาหลายเดือน
ได้ดูงามตามทางที่นางอื่น ก็หลายหมื่นเหยียบแสนไม่แม้นเหมือน ไม่มีสู้คู่ควรกระบวนเบือน เหมือนแม่เพื่อนชีพชายจนปลายแดน
พี่จากไปได้แต่รักมาฝากน้อง มากกว่าของอื่นอื่นสักหมื่นแสน พอเป็นค่าผ้าห่มที่ชมแทน อย่าเคืองแค้นเลยที่ฉันไม่ทันลา
ด้วยเกิดความลามถึงเพราะหึงหวง คนทั้งปวงเขาคิดริษยา จึงหลีกตัวกลัวบุญคุณบิดา ไปแรมป่าปิ้มชีวันจะบรรลัย
แม่อยู่ดีปรีดิ์เปรมเกษมสวัสดิ์ หรือเคืองขัดขุกเข็ญเป็นไฉน หรือแสนสุขทุกเวลาประสาใจ สิ้นอาลัยลืมหมายว่าวายวาง
หรือพร้อมพรักพักตร์เพื่อนที่เยือนยิ้ม ให้เปรมปริ่มประดิพัทธ์ไม่ขัดขวาง จะปราบปรามห้ามหวงพวงมะปราง ให้จืดจางจำจากกระดากใจ
นิราศเรื่องเมืองแกลงแต่งมาฝาก เหมือนขันหมากมิ่งมิตรพิสมัย อย่าหมางหมองข้องขัดตัดอาลัย ให้ชื่นใจเหมือนแต่หลังมั่งเถิดเอย ฯ
- จบนิราศเมืองแกลง -
Photo by : มารบูรพา มยุรธุชบูรพา
|
ประชุมนิราศสุนทรภู่
"นิราศของสุนทรภู่" ถือว่าเป็นนิราศที่ดีที่สุดในกระบวนนิราศด้วยกัน เพราะสุนทรภู่ไม่ได้ประพันธ์เน้นไปในเชิงความรักเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังแทรกคติธรรม ความคิดเห็น ตำนาน การพรรณนาธรรมชาติได้อย่างเห็นภาพ และถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของกวีได้เป็นอย่างดี
"ประชุมนิราศสุนทรภู่" ได้รวบรวมนิราศเรื่องเด่นของสุนทรภู่ไว้ทั้งหมด 5 เรื่อง ดังนี้ คือ
"นิราศเมืองแกลง" เป็นนิราศเรื่องแรกของสุนทรภู่ กล่าวถึงการเดินทางไปเยี่ยมบิดา ที่เมืองแกลง จังหวัดระยอง
"นิราศพระบาท" แต่งในขณะที่ตามเสด็จพระองค์เจ้าปฐมวงศ์ ไปนมัสการรอยพระพุทธบาทจังหวัดสระบุรี
"นิราศภูเขาทอง" ถือเป็นนิราศเรื่องเอกของสุนทรภู่ แต่งในขณะที่บวชอยู่วัดราชบูรณะ เมื่อคราวเดินทางไปนมัสการเจดีย์ภูเขาทองที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
"นิราศพระประธม" แต่งหลังจากที่สุนทรภู่ลาสิกขาแล้ว เป็นเหตุการณ์ขณะเดินทางไปนมัสการพระปฐมเจดีย์ท่าจังหวัดนครปฐม
"นิราศเมืองเพชร" เป็นนิราศเรื่องสุดท้ายของสุนทรภู่ กล่าวถึงเหตุการณ์ในขณะอาสาพระน้องยาเธอ กรมขุนอิศเรศรังสรรค์ไปทำธุระ ตามพระราชประสงค์ที่จังหวัดเพชรบุรี
- Black Sword - (หมู มยุรธุชบูรพา) <<< ก่อนหน้า
รายนามผู้เยี่ยมชม : ธนุ เสนสิงห์, กร กรวิชญ์, รพีกาญจน์, ตูมตาม, Black Sword, หญิงหนิง พราววลี, ปลายฝน คนงาม, หนูหนุงหนิง, ก้าง ปลาทู, น้ำหนาว, ลมหนาว ในสายหมอก, ขวดเก่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|