กลบทสิงโตเล่นหาง จาก "กลบทศิริวิบุลกิตติ์" โดยหลวงศรีปรีชา (เซ่ง)
๐ พวกอำมาตย์แห่ง
ท้าวเจ้ากรุงศรี.............ล้วนเลิศดีเกรง
หมดทศทิศา
ไม่มี
ผู้สู้ต่อรอฤทธา...............................ออกระอาท้าว
จบภพจักรพาล
ประมาณ
พันกลั่นกล้าร่าเริงแสน................ถึงยอดแดนสยอน
เดชเขตรสถาน
ให้ครั่น
คร้ามขามตัวกลัวฤทธิ์ราญ..............ย่อมชำนาญการ
ยุทธสุดฝีมือ
พอได้
ฟังคั่งแค้น แสนเหี้ยมหาญ..............พิโรธราญวิ่ง
มาอาวุธถือ
เข้ามา
เฝ้าเจ้าพิ
ภพนบนิ้วมือ....................เสียงอืงอื้ออา
สา ฝ่าละออง
ขอเด
ชะพระองค์ จงโปรดเศียร.................ให้สมเพียรโย
ธา ข้าบาทสนอง
จักต่อ
สู้หมู่ม
หา จามิตรปอง.....................ขอทูลละอองอา
สา กว่าชีพวาย
กรุงกระ
ษัตริย์ตรัสว่าอย่าเหี้ยมหัน.............จงชวนกันงด
โกรธโทษทั้งหลาย
ย่อมเป็น
พระอนิจ
จังทั้งร่างกาย................เรามาดหมายเกิด
มาราคารึง
เพราะโม
หะทะทับดับจิตรหวัง.................ให้ชิงชังโท
โสโมโหหึง
หลงหวง
แหนแน่นรักษนักตรังตรึง.............ให้รังรึงรา
โคโอ้โยยศ
ท่านจง
กลับยับยั้งยังเคหา .....................อย่าโกรธารา
ราญการถอยถด
อันความ
โกรธโหดหึงพึงเข้าบท...............ให้กำหนดสิบ
ข้อล่อล่วงเรา
ให้ว่ายเวียนเปลี่ยนกายสายกระแส............ย่อมชุ่มแช่ในภพหงบเงียบเหงา
เหมือนเต่าตาบอดปลอดงอดงงเงา...........ไม่เหนเลาลายเกาะเลาะเลี้ยวลัด
อันเกาะฝั่งตั้งเทียบเปรียบนิพพาน............คนสันดานวัจนาวาจาสัตย์
หนึ่งละโมบโอบหลงวงเวียนวัฏ...............จิตรใจจัดจองจังตั้งขันตี
มีศรัทธาปรารภนบนับถือ........................คุณพระคือศรีรัตนัตตรัยศรี
แผ่เมตตาอารมณ์ชมชื่นดี.......................ย่อมอารีรอบคอบชอบชื่นชม
ไม่มีจิตรอิจฉาอารมณ์เหน.......................ย่อมคิดเป็นอนิจจังตั้งประถม
คนเหล่านี้ดีแท้แน่นิยม..........................จักได้ชมเกาะแก้วแผ้วพ้นทุกข์
ไม่วนเวียนเปลี่ยนแปลงแบ่งเบาโศก.........ดับวิโยคอันใหญ่ใสสูงศุข
ท่านจงฟังเราว่าอย่าบั่นบุก.....................เข้าราญรุกรอนราญการราวี
ท้าวตรัสแล้วแคล้วคลาดยาตราหา............ดวงสุดานิ่มนฏราชมเหสี
สถิตยังนั่งแท่นแผ่นมณี........................มีวาทีอำลาว่าดวงจันทร์
ภัทเทดูราอาดูรโฉม.............................งามประโลมล้ำทรงองค์เฉิดฉัน
แม่จง เป็นศุข ทุกคืนวัน........................พี่จักบั่นบุกป่าลาน้องจร
จักบวชองค์ทรงพรตยศฤๅษี..................เที่ยวเอกีอยู่ในไพรสิงขร
แม่จงอยู่ศุขาให้ถาวร...........................ครรภ์ยังอ่อนจงดีมีใจรักษ
แม้นเป็นหญิงฤๅชายไม่รู้เหตุ.................แม่ดวงเนตรเจ้าพี่ศรีสูงศักดิ์
จงถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงลูกรักษ...........ตัวพี่จักลานุชสุดใจจร
มเหสีฟังท้าวกล่าวเกลี้ยงเหตุ.................แสนสังเวชอัดอั้นตันจิตรสมร
ดั่งสายอสุนิบาตฟาดฟันฟอน.................ให้แน่นอนนิ่งตึงตะลึงคิด
เจ้าแสนทรงสงสารดาลแดถวิล...............ดั่งชีวินจากร่างวางสนิท
ให้อัดอั้นตันใจในดวงจิตร......................เจ้าครุ่นคิดไหวหวั่นครั่นครุ่นครวญ
ยกหัตถ์รอนค่อนทรวงหน่วงหนักโศก.........แสนวิโยคเสียวศัลย์รัญจวนหวน
กอดซึ่งบาทภัสดาอาดูรครวญ.................แม่นิ่มนวลกล่าวว่าคาถาธรรม์
เนสธัมโมโอ้ทรงศร..............................ผู้เรืองรอนฤทธิ์เลิศก็เฉิดฉัน
มิควรจำดำรัสตรัสจาบัลย์.......................จักจรจรัลองค์เดียวเปลี่ยวพระทัย
แม้นพระองค์ทรงภพลบเลิศศรี................จักเอกีตำแหน่งแห่งหนไหน
ข้าพระองค์ปลงจิตรติดตามไป..................กว่าชีไวชีวังสังขารราน
ถ้าตัวน้องพลัดพรากจากทรงฤทธิ์..............จักขุ่นคิดโศกแสนแค้นสงสาร
จากวากีวะอุระจะราน.............................ฤดีดาลดั่งอกนกน้อยนาง
ชื่อจากพรากพลัดคู่อยู่เดียวโดด...............ให้ลิ่วโลดลานจิตรคิดอางขนาง
จะหลบหลีกเสือกกายวายชีพวาง..............เพราะเหินห่างจากคู่อยู่เอกา
เปรียบฉันใดใจหวังดั่งข้าสวาดิ์.................ต่อจอมราชสามีที่เสน่หา
คงจะสิ้นชีวันบรรลัยลา..........................มีแต่อาดูรร่ำระกำกิน
กุญชโรโอ้ว่าพระยาสวัสดิ์.......................กุญชรรัตน์ล้ำเลิศเฉิดโฉมฉิน
มาตังโคโตเติบล้ำนาคิน.........................เกิดแต่ถิ่นตั้งสถานชำนาญไพร
ตัวขาวล้วนนวลละอองผ่องแผ้วผุด.............ดูงามดุจเงินยวงช่วงสดใส
จะโรจะเรเที่ยวเลี้ยวลดใน.......................คีรีไพรพฤกษาป่าแดนดง
ทุกห้วยเหวโตรกธารหานคูหา...................มีอุปมาดั่งท้าวเจ้าประสงค์
.................................... .................จิตรท้าวปลงดั่งราชชาติกุญชร
อันข้าบาทนาฏน้องปองกายหมาย..............ดั่งซึ่งกายภักดีมิท้อถอน
เสมอเทียบเปรียบนางช้างกุญชร...............ย่อมบทจรตามทรงองค์ฉัททันต์
อันชาตินี้มิละพระงามโฉม.......................จนทรุดโทรมสังขาราอาสัญ
ขอเป็นบาทบริจากว่าชีวัน.......................ไม่จากกันตราบเท่าเข้านิพพาน
จอมณรงค์ทรงดั่งได้สวรรค์......................โสฬสอันแสนศุขทุกสถาน
จึงปลดเปลื้องเครื่องทรงอลงการ................พายุพาลจากห้องทองแท่นจันทน์
เอาเพศเป็นทุคตะละนิเวศน์.....................เข้าสู่เขตรแดนดงทรงโศกศัลย์
เสด็จเข้าป่าใหญ่ไพรหิมวันต์....................ชมนกอันจับไม้รายริมทาง ฯ
๑-----------------------๑
กลบทสิงโตเล่นหาง ปรากฏอยู่ในการประพันธ์ลำดับที่ ๑๕ ของตำราศิริวิบุลกิตติ์
พิจารณาโดยรวมเห็นว่า ที่เพิ่มจากกลอนทั่วไป คือ
- ๑.) ในทุกวรรคของกลอน ให้มีสัมผัสสระชิดระหว่าง คำท้ายของช่วงกลาง กับ คำแรกของช่วงหลัง (xxx...x
A…
Axx) เป็นหลัก
- ๒.) ในวรรคสดับ และวรรครอง (วรรค ๑ และ ๓) นิยมให้เพิ่มสัมผัสสระชิดอีก ๑ คู่ คือระหว่าง คำท้ายของช่วงแรก กับ คำแรกของช่วงกลาง (xx
A...
Ax…xxx)
** กลบทนี้มีที่มาปรากฏทั้งในตำรา "กลบทศิริวิบุลกิตติ์" และ "จารึกวัดพระเชตุพนฯ"
-๐ กลบทที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน ๐- • กลบท มธุรสวาที คลิก ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ครับผม
...-๐ Black Sword (หมู มยุรธุชบูรพา) ๐-...

•
กลับสู่หน้าห้องเรียน กลอนกลบท คลิก •
กระโดดสู่ห้องเรียน โคลงกลบท คลิก •
กระโดดสู่ห้องศึกษา ภาพโคลงกลบท คลิก •
กระโดดสู่ห้องเรียน กาพย์ คลิก •
กระโดดสู่ห้องเรียน กลอน คลิก •
กระโดดสู่ห้องเรียน โคลง คลิก •
กระโดดสู่ห้องเรียน ฉันท์ คลิก •
กระโดดสู่ห้องเรียน ร่าย คลิก