Username:
Password:
บ้านกลอนน้อยฯ
ช่วยเหลือ
ค้นหา
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล
>>
ห้องเรียน
>>
ห้องศึกษา กาพย์ โคลง ร่าย
>>
- โคลงดั้นบาทกุญชร -
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: - โคลงดั้นบาทกุญชร - (อ่าน 30817 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Black Sword
ผู้บริหารเว็บ
จำนวนผู้เยี่ยมชม:
65535
ออฟไลน์
ID Number: 88
จำนวนกระทู้: 10374
เมื่อ มยุรธุชกางปีกฟ้อน... มวลอักษรก็ร่อนรำ
|
|
- โคลงดั้นบาทกุญชร -
«
เมื่อ:
23, ธันวาคม, 2564, 10:15:08 PM »
บ้านกลอนน้อยฯ
Permalink:
- โคลงดั้นบาทกุญชร -
โคลงดั้นบาทกุญชร
โคลงดั้นบาทกุญชร
หรือ
โคลงสี่ดั้นบาทกุญชร
เป็นโคลงสี่ชนิดหนึ่ง ซึ่งนิยมแต่งในช่วงอยุธยาตอนต้น มีลักษณะเหมือนกับ
โคลงดั้นวิวิธมาลี
คลิก
ทุกประการ หากเขียนเพียงบทเดียวเดี่ยว ๆ จะไม่สามารถแยกความต่างได้ จะแยกได้ก็ต่อเมื่อมีบทก่อนหน้าหรือบทถัดไปให้สังเกต เพราะสองโคลงนี้
ต่างกันที่การส่งสัมผัสระหว่างบท
ซึ่ง
โคลงดั้นบาทกุญชร
มีการบังคับส่งสัมผัสระหว่างบทไว้ ๒ แห่ง ในขณะที่
โคลงดั้นวิวิธมาลี
มีการบังคับการส่งสัมผัสระหว่างบทไว้เพียง ๑ แห่ง นั่นเอง
โคลงดั้นบาทกุญชร
- บทหนึ่งมี ๒๘ คำเป็นหลัก (อันยังไม่นับรวม "สร้อยโคลง" ที่เพิ่มได้อีกสองแห่ง แห่งละสองคำ ในท้ายบาทที่ ๑ และท้ายบาทที่ ๓)
คณะโคลงดั้นบาทกุญชร
- โคลงสี่ดั้นบาทกุญชร หนึ่งบทมี ๒๘ คำเป็นหลัก (ไม่รวมสร้อยโคลง)
ในหนึ่งบทนั้นมี ๔ บาท
แต่ละบาทมี ๒ วรรค ประกอบด้วยวรรคหน้า ๕ คำ และวรรคหลังอีก ๒ คำ รวมแล้วทั้งสี่บาทจึงมี ๒๘ คำเป็นหลัก
การนับคำในโคลง
- การนับคำในโคลงนั้น นับตามเสียงพยางค์ที่เปล่งออกมาหนึ่งครั้งต่อหนึ่งคำ แต่ว่าหากคำใดที่ประกอบด้วยคำมูลที่เป็นลหุแท้ เช่น สวรรค์ พินิจ กุสุม เกษม วิหค ฯลฯ นั้น ผู้ประพันธ์สามารถนับได้ให้เป็น ๑ คำ หรือ ๒ คำก็ได้ แล้วแต่เจตนาของผู้เขียน แต่หากเป็นลหุลอยที่มีความหมายเฉพาะตัว เช่น จะ มิ เพราะ และ เตะ ฯลฯ จะนับเป็น ๑ คำเท่านั้น
และในการแต่ง
โคลงดั้นบาทกุญชร
นั้น มีจุดบังคับต้องใช้
คำสุภาพ
(คำที่ไม่มีรูปวรรณยุกต์) อยู่ ๔ แห่ง
คือ คำที่ ๗ ในบาทแรก ,คำที่ ๕ ในบาทที่สองและบาทที่สาม และ คำที่ ๗ ในบาทที่สี่ นั่นเอง
และเฉพาะคำที่ ๗ บาทที่สี่ (ซึ่งเป็นคำจบของบท) จะไม่ใช้คำตาย เพื่อเอื้อต่อการออกเสียงจริงเวลาอ่านหรือขับโคลง
รายนามผู้เยี่ยมชม :
ฟองเมฆ
,
ลิตเติลเกิร์ล
,
ปลายฝน คนงาม
,
ลมหนาว ในสายหมอก
,
มนชิดา พานิช
,
น้ำหนาว
,
ชลนา ทิชากร
,
ปิ่นมุก
,
ข้าวหอม
,
ขวัญฤทัย (กุ้งนา)
,
กร กรวิชญ์
,
ก้าง ปลาทู
บันทึกการเข้า
..
รวมบทกลอน "
ที่นี่เมืองไทย...
"
รวมบทกลอน "
ร้อยบุปผา
"
รวม
บทประพันธ์ทั่วไป
"Black Sword (หมู มยุรธุชบูรพา)"
รวมบทประพันธ์
กลบท
"Black Sword (หมู มยุรธุชบูรพา)"
รวมบทประพันธ์
ฉันท์
"Black Sword (หมู มยุรธุชบูรพา)"
กลอน
สุภาษิต-คำพังเพย-สำนวนไทย
บ้านกลอนน้อย
ลานอักษร มยุรธุชบูรพา
..
Black Sword
ผู้บริหารเว็บ
จำนวนผู้เยี่ยมชม:
65535
ออฟไลน์
ID Number: 88
จำนวนกระทู้: 10374
เมื่อ มยุรธุชกางปีกฟ้อน... มวลอักษรก็ร่อนรำ
|
|
Re: โคลงดั้นบาทกุญชร
«
ตอบ #1 เมื่อ:
23, ธันวาคม, 2564, 10:16:23 PM »
บ้านกลอนน้อยฯ
Permalink:
Re: โคลงดั้นบาทกุญชร
การแต่งโคลงดั้นบาทกุญชร
๑.
สัมผัสบังคับ
การสัมผัสในบทของ
โคลงดั้นบาทกุญชร
นั้น มีจุดบังคับรับ-ส่ง สัมผัสสระภายในบท ตามตำแหน่งที่โยงเส้นดังแสดงไว้ในผัง คือ
๑.๑
สัมผัสบังคับ ภายในบท
(ดูผังด้านบนประกอบ)
โคลงดั้นบาทกุญชร
นั้น มีสัมผัสบังคับภายในบทเพียง ๒ แห่งเท่านั้น ต่างกับโคลงสี่สุภาพที่ต้องมี ๓ แห่ง คือ
-
คำที่ ๗
ของบาทแรก ให้
ส่งสัมผัสสระ
ไปยัง
คำที่ ๕
ของบาทที่สาม
-
คำที่ ๗ รูปโท
ของบาทสอง
ส่งสัมผัสสระ
ไปยัง
คำที่ ๕
รูปโทของบาทที่สี่ แต่บางกรณีหากจำเป็น ก็อนุโลมร่นมาสัมผัสคำที่ ๔ แทนได้ หากว่าคำหรือเนื้อความบังคับ
แต่มักจะนิยมคำที่ ๕ มากกว่า
๑.๒
สัมผัสบังคับ ระหว่างบท
(ดูผังด้านบนประกอบ)
อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้นว่า
โคลงดั้นบาทกุญชร
นั้น กำหนด
บังคับสัมผัสระหว่างบทไว้ ๒ แห่ง
คือ
-
คำที่ ๗ ในบาทที่ ๓
ของบทก่อนหน้า
ส่งสัมผัสสระ
ไปยัง
คำเอก
ในบาทที่ ๑ ของบทถัดไป
-
คำสุดท้ายในบาทที่ ๔
ของบทก่อนหน้า
ส่งสัมผัสสระ
ไปยังคำที่ ๕ ในบาทที่ ๒ ของบทถัดไป
อย่างนี้ตลอดไป เช่น
๐ อีกโคลงแบบดั้นหนึ่ง พึง
ยล
บอกเช่นบาทกุญชร ชื่อ
อ้าง
วิธีที่เลบง
กล
แปลก
ก่อน
ยากกว่าบรรพ์แสร้ง
สร้าง
อื่น
แปลง
๐ สองรวดกลอน
ห่อน
พลั้ง ผัด
พจน์
เฉกสี่เชิงสาร
แสดง
ย่าง
ผ้าย
สัมผัสทั่วทุก
บท
ฤๅเคลื่อน คลายเอย
บงดั่งบาทช้าง
ย้าย
ต่อตาม ฯ
(จินดามณี)
ตามรูปแบบสัมผัสบังคับ เมื่อได้พิจารณาจะเห็นได้ว่า ตั้งแต่บาทแรกเลยนั้น บาทคี่ส่งสัมผัสให้เฉพาะบาทคี่ บาทคู่ส่งสัมผัสให้เฉพาะบาทคู่ ตลอดทุกบาท เป็นเช่นนี้เกี่ยวเนื่องกันไปตลอดไม่ว่าจะสักกี่บทก็ตาม (บาทคี่กับบาทคู่จะไม่ส่งและรับสัมผัสกันเลย) ซึ่งต่างจาก
โคลงสี่สุภาพ
คลิก
ที่สัมผัสระหว่างบาทคร่อมกันได้
๒.
คำเอก คำโท
ในหนึ่งบทของ
โคลงดั้นบาทกุญชร
นั้น มีการกำหนดบังคับใช้คำรูปวรรณยุกต์เอกไว้ ๗ แห่ง และโท ๔ แห่งเช่นเดียวกับโคลงสี่สุภาพ ต่างกันตรงที่
คำโทในบาทที่สี่
นั้น ย้ายมาอยู่ในคำที่ ๔ และ ๕ เป็น
คำโทคู่
ชิดติดกัน ดังที่แสดงในผัง และยังใช้รับสัมผัสที่ส่งมาจากบาทที่ ๒ ได้ทั้งคู่อีกด้วย (ดูผังประกอบ)
(วรรณกรรมยุคเริ่มต้นก่อนคลี่คลาย บาทสี่อาจใช้คำโทแบบแยก คือมีคำคั่นคำหนึ่ง หรือคำโทแบบเดี่ยว ๆ ซึ่งปัจจุบันไม่ใช้แล้ว)
นอกนี้แล้ว คำที่เหลืออีก ๑๗ คำ จะมีรูปวรรณยุกต์หรือไม่ก็ได้ แต่หากเป็นคำสุภาพได้ก็งามตา
อนึ่ง
ตำแหน่งที่บังคับรูปวรรณยุกต์เอก ๗ แห่งนั้น สามารถใช้ "คำตาย" แทนได้ (คำตาย คือ คำที่ใช้สระเสียงสั้นไม่มีตัวสะกด เช่น เกาะ มิ ชะ มุ และ คำที่สะกดด้วยแม่ กก กบ กด (กบด) เช่น ลูก กาบ มิตร เป็นต้น )
๓.
การสลับตำแหน่งคำเอก-คำโท ในโคลง
ใน
โคลงดั้นบาทกุญชร
นั้น ตำแหน่งคำเอก คำโท ในโคลงที่บังคับไว้นั้น
สามารถสลับที่กันได้หนึ่งแห่ง นั่นคือ คู่คำเอก-โท ในคำที่ ๔-๕ ของบาทแรกหรือ "บาทต้น" นั่นเอง
ทั้งนี้ทั้งนั้น สลับได้เฉพาะบาทนี้เท่านั้น ตรงตำแหน่งอื่นไม่สามารถสลับได้
** และเมื่อสลับแล้ว
คำเอกที่ย้ายมาอยู่คำที่ ๕ ก็ต้อง
ไม่ลืม
รับสัมผัสจาก
ท้ายบาทที่สามของบทก่อนหน้า
นี้ด้วย
๔.
การใช้เอกโทษ-โทโทษ
รายละเอียดเรื่อง
คำเอกโทษ คำโทโทษ
ที่ใช้ในโคลง คลิกอ่านได้
ที่นี่
คลิก
๕.
คำสร้อย
รายละเอียดเรื่องคำสร้อยที่ใช้ในโคลง คลิกอ่านได้
ที่นี่
คลิก
โคลงดั้นบาทกุญชร
หากเนื้อความยังไม่สิ้นกระแส สามารถใช้สร้อยต่อท้ายในบาทที่ ๑ และบาทที่ ๓ เสริมความให้จบกระแสได้เช่นเดียวกับโคลงสี่สุภาพ
หมายเหตุ :
คำสร้อย นอกเหนือจากบาทที่ ๑ และบาทที่ ๓ แล้ว ใน
บาทที่ ๔
ก็สามารถใช้คำสร้อยได้เช่นกันอีกสองคำต่อท้าย แต่นิยมสร้อยแบบ
ซ้ำคำ
เช่น
มุ่งเห็นเมืองสมุทรทั้ง ........ ทิมชเล
หญิงหย่อนอวนปลาแอ .... อัดปลํ้า
จรลาดเหล่าเรือเร ............. รับช่วง
ปากแม่ค้าผํ้าผ้ำ ............... ผาด
เสียง
แถม
เสียง
ฯ
(พระยาตรัง)
จากตัวอย่างนั้นคือบาทที่สี่ของโคลง ซึ่งปกติต้องจบแค่ ๗ คำเท่านั้น แต่เติมสร้อยได้อีกสองคำ คือ คำว่า แถมเสียง ที่เน้นสีแดงไว้ให้เห็น และอย่างที่บอกคือ ใช้แบบสร้อย
ซ้ำคำ
ในที่นี้ คือ คำว่า
เสียง
นั่นเอง และไม่ต้องเว้นช่วงด้วย เขียนติดกันไปได้เลย
ส่วนศิลปะการสร้างความไพเราะนั้น เช่น การเล่นคำ หรือการนิยมเล่นสัมผัสอักษรระหว่างวรรคหน้าและวรรคหลัง หรืออื่น ๆ นั้น ไม่ต่างกับโคลงสี่ทั่วไป
๐ ------------------------------- ๐
บทเสริม
นอกจากคำสร้อยแบบดังกล่าวในบาทที่สี่แล้ว ตรงนี้คือความแปลกในบาทที่สี่ของโคลงสี่ดั้น คือ ในบางครั้งจะพบว่า บาทที่สี่จะมีการใช้เป็นลักษณะเดียวกับโคลงสี่สุภาพ คือ มี ๙ คำ และคำเอกคำโทนั้นเป็นลักษณะโคลงสี่สุภาพ แต่สัมผัสต่าง ๆ ก็ยังเป็นแบบโคลงดั้น เช่น
ผนังใหญ่หลังใต้กอป ............... การย์รจิต รูปเอย
แผนภาพสกลกายกุมาร ........... แม่ซื้อ
คอสองแหล่งเฉลียงลิขิต ........... คน
แปลก
เพศพ่อ
ลบองบอกออกซื่ออื้อ ................ เอิกอ้างรา
หู
โอสถจาน
แจก
สร้าง .................. เสลา ลายแฮ
ตราติดทั่วสถาน
ดู
..................... ดื่นด้าว
เลบงโคลงฉลักเลขา ................. ขานออก ความเอย
เลงแผ่นผาอคร้าวล้วน .............. เล่ห์กัน
(ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ : กรมพระปรมานุชิตชิโนรส)
จะเห็นได้ว่า ในบทต้นนี้ที่
เน้นสีแดง
ไว้นั้น ทั้งจำนวนคำ และคำโท ในบาทที่สี่เป็นแบบโคลงสี่สุภาพอย่างที่บอก แต่การส่งสัมผัสต่าง ๆ นั้นเป็นแบบโคลงดั้นบาทกุญชรอยู่ แบบนี้ท่านก็เรียกไว้ว่า
โคลงดั้นมหาบาทกุญชร
ไว้เป็นพื้น ซึ่งจะพบแทรกอยู่เป็นระยะ ๆ ในวรรณกรรมต่าง ๆ เท่านั้น
เรื่อง
โคลงดั้นบาทกุญชร
คงอธิบายไว้เพียงแต่คร่าว ๆ เท่านี้ ด้านล่างต่อไปเป็น
ตัวอย่าง
โคลงดั้นบาทกุญชร
บางส่วนจากวรรณกรรมต่าง ๆ
รายนามผู้เยี่ยมชม :
ลิตเติลเกิร์ล
,
ฟองเมฆ
,
ปลายฝน คนงาม
,
ลมหนาว ในสายหมอก
,
มนชิดา พานิช
,
น้ำหนาว
,
ชลนา ทิชากร
,
ปิ่นมุก
,
ข้าวหอม
,
ขวัญฤทัย (กุ้งนา)
,
กร กรวิชญ์
,
ก้าง ปลาทู
บันทึกการเข้า
..
รวมบทกลอน "
ที่นี่เมืองไทย...
"
รวมบทกลอน "
ร้อยบุปผา
"
รวม
บทประพันธ์ทั่วไป
"Black Sword (หมู มยุรธุชบูรพา)"
รวมบทประพันธ์
กลบท
"Black Sword (หมู มยุรธุชบูรพา)"
รวมบทประพันธ์
ฉันท์
"Black Sword (หมู มยุรธุชบูรพา)"
กลอน
สุภาษิต-คำพังเพย-สำนวนไทย
บ้านกลอนน้อย
ลานอักษร มยุรธุชบูรพา
..
Black Sword
ผู้บริหารเว็บ
จำนวนผู้เยี่ยมชม:
65535
ออฟไลน์
ID Number: 88
จำนวนกระทู้: 10374
เมื่อ มยุรธุชกางปีกฟ้อน... มวลอักษรก็ร่อนรำ
|
|
Re: โคลงดั้นบาทกุญชร
«
ตอบ #2 เมื่อ:
23, ธันวาคม, 2564, 10:17:18 PM »
บ้านกลอนน้อยฯ
Permalink:
Re: โคลงดั้นบาทกุญชร
ตัวอย่าง
โคลงดั้นบาทกุญชร
บางส่วน
แสดงคำเอก คำโท, คำสร้อย, คำสัมผัสภายในบท
และโดยเฉพาะ
คำสัมผัสระหว่างบท
เพื่อให้เห็นความแตกต่างเด่นชัดกับ
โคลงดั้นวิวิธมาลี
คลิก
โคลงดั้นบาทกุญชร
(โคลงดั้นนิราศตามเสด็จทัพลำน้ำน้อย : พระยาตรัง)
๐ บางหลวงคลองน้ำวิ่ง วน
วง
ขนานขนัดแพพวนเหนี่ยว หน่วง
ฝั้น
เสนอสนองบ่วงสาม
สง
สาร
สุด
สวาสดิ์ฤๅ
นานนิพันธ์
หมั้น
ม้วย หมื่น
ปี
ฯ
๐ ศัลย์เสียวไป่
หยุด
เศร้า แสน
สา
- หัสเอย
ล่วงลุวัดหงส์
ทวี
เทวศ
ซ้ำ
หวงหงส์ประเหล
หา
เหม
สระ
สนานแม่
ว้าวุ่นท้องน้ำ
ถ้ำ
ถิ่น
ไศล
ฯ
๐ สนุกนิ์สนานสว่าง
สวะ
ท้อง ธา
ริน
แม่ฮา
ขุนทิชาฤๅ
ไคล
คลาศ
คล้อย
เชยช่อผกา
สินธุ์
สมสื่อ
โสรจสุคันธ์ไซ้
สร้อย
ส่ายสนาน ฯ
๐ สังขจายขจรชื่ออ้าง อาราม
วงศ์ทวิชาชาญ เชื่องหล้า
สังข์สรงสุหร่ายพราหมณ์ เพรงแม่น
ฤๅโสรจน้ำหน้าเศร้า เสื่อมสูญ ฯ
(โคลงดั้นนิราศตามเสด็จทัพลำน้ำน้อย : พระยาตรัง)
โคลงดั้นบาทกุญชร
(ความรู้ : ชิต บุรทัต)
๐ เรียนรู้ไม่ถี่ถ้วน วิชา
ใด
ก็ดี
คิดคาดคุยอวดเขา อีก
ผู้
เรียนรู้แต่เพียง
ใคร
ปรา
รภ
อะไรฤๅ
คอยจะหาถ้อย
สู้
แส่
เถียง
๐ ตรองมองไม่
พบ
แม้ ฤๅ
มี
ประโยชน์ตนแต่
เพียง
กึ่ง
ก้อย
ประโยชน์ท่านก็
ดี
ดู
บ่
เห็นเลย
เขาเกลียดนับร้อย
น้อย
ประ
มาณ
๐ ความรู้เช่นนี้
ก่อ
เกิด
ผล
ร้ายเฮย
คนที่มีสมา
จาร
สุภาพ
ผู้
จักไม่เห่อเหิม
ตน
ตามพรรค นั้นเลย
รู้มากสอนให้
รู้
สึกดี
๐ อันผู้รู้น้อยมัก แสดงตน
เหมือนว่ารู้มากมี มากไซร้
ผู้รู้มากกลับยล ยังพร่อง แท้แฮ
รู้แต่เล็กน้อยไขว้ สับสวน
(ความรู้ : ชิต บุรทัต)
โคลงดั้นบาทกุญชร
(ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ : กรมพระปรมานุชิตชิโนรส)
๐ ดับให้รจเรขแสร้ง สอบ
มุข
ท้ายเฮย
แห่งวิหารสามทิศ ทั่ว
สร้าง
ขุดรากก่อทำ
นุก
แนว
เพิ่ม
ผนังนา
เยิ่นอย่างวิหารด้าน
ข้าง
เขตร
บูรรพ์
๐ เปลี่ยนตัวไม้รื้อ
เริ่ม
รัง
สฤษดิ์
ใหม่แฮ
ครบเครื่องบนอา
กูล
เก่า
ค้าน
ชำรุดประกอบ
กิจ
การย์
ผลัด
เปลี่ยนพ่อ
กระเบื้องเคลือบมุงถ้วน
ด้าน
ด่อน
พรรณ
๐ เสร็จซ่อมรัก
รัด
แต้ม ติด
มาด
ใหม่นา
ประดับกระจกระบายระบุ
สรรค์
ซ่อม
ซ้ำ
เชิงผนังและพื้น
ดาษ
ดุจโบศถ์ ไล้เฮย
ทั้งสี่พิหารแล้ว
ล้ำ
เลื่อมแล
๐ มุขหลังผนังโปรดให้ เหิ่มคิด เขียนนา
ทุกทั่ววิหารสี่แปล แปลกอ้าง
ฝ่ายบูรรพิศรจิต แจกเรข เรื่องฤๅ
สิบอศุภสร้างสิ้น สิบบาน
(ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ : กรมพระปรมานุชิตชิโนรส)
โคลงดั้นบาทกุญชร
(อาทิตย์ถึงจันทร์ : เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์)
๐ ระนาดรับฉาบร้อย รัว
กลอง
เพริดตะโพนโยนทัน ถี่
ย้ำ
ฆ้องทุ่มรุ่มเร็ว
รอง
รับ
ไล่
ปิ่นประจงเจื้อย
จ้ำ
แจก
เสียง
๐ เก็บพิกุล
ใส่
ผ้า แพร
สี
บ้างเก็บมะลิ
เรียง
ร่ำ
ร้อย
หอมแม่เลิศมา
ลี
ใน
โลก
ส่วนกุศลสร้าง
สร้อย
สอด
สรวม
๐ ระลึกวันควัน
โบก
บ้าย บาย
ศรี
เทียนแว่นไหว้เวียน
รวม
ร้อบ
ล้อม
รอบที่หนึ่งน้อม
พลี
พระพุทธ
สองพระธรรมซ้ำ
พร้อม
พระสงฆ์
๐ ขวัญพ่อพิสุทธิ์เพี้ยง เพ็ญสังข์
ชะลอพระวารีลง ร่วงแล้ว
พ่อจักสืบพุทธัง- กูรพระศาสน์
ตลอดวัสสาพ้องแผ้ว ผ่องบุญ
(อาทิตย์ถึงจันทร์ : เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์)
โคลงดั้นบาทกุญชร
(โคลงทวาทศราศี : หลวงธรรมาภิมณฑ์ (ถึก จิตรกถึก))
๐ ทวยเทพแสนชื่นช้อย ฉ่ำ
ฝน
เพลงสวาดิสวรรค์ถลิล วากย์
พร้อง
พิรุณร่วงละออง
ชล
ชะ
โลกย์
แสนสนุกนิ์ ณ ห้วง
ห้อง
แน่ง
สวรรค์
ฯ
๐ สนุกนิ์สระสม
โภค
เพี้ยง แมน
สรวง
อิ่มทิพย์นิทรา
นันท
เอนก
ล้ำ
ฤๅเท่าสนุกนิ์
ดวง
จิต
ร่วม
รักแฮ
สนุกนิ์ยิ่งทิพย
น้ำ
สร้อย สระ
สวรรค์
ฯ
๐ สนุกนิ์เสน่ห์
น่วม
เนื้อ นาง
ผจง
สนุกนิ์ยิ่งสระอินทร์
อัน
เอก
ไซร้
เพลินจิตจวบเจียร
หลง
ลืมชีพ ลาญแฮ
นึกแรกรสรู้
ไร้
เร่งครวญ ฯ
๐ โกมุทสมรกลีบเกลี้ยง เกลาใจ
แรกร่วมรสคำนวณ คู่ห้อง
ร่วมสระกระสินธุ์ใน ทรวงสนุกนิ์ น้อยฤๅ
สองเสน่ห์พร้องเฝ้า ใฝ่ใจ ฯ
(โคลงทวาทศราศี : หลวงธรรมาภิมณฑ์ (ถึก จิตรกถึก))
โคลงดั้นบาทกุญชร
(นาฏกรรมบนลานกว้าง : คมทวน คันธนู)
๐ เกิดอยู่คู่โลกหล้า เลื่อน
ไหล
จากสัตว์เซลล์เดียวขยาย ขยับ
เขยื้อน
สู่สัตว์ซึ่งอา
ศัย
สมอง
สั่ง
เปิดปากเป็นถ้อย
เอื้อน
เอ่ย
กัน
๐ เดี่ยวโดดก็
พรั่ง
พร้อม รวม
พล
ที่พักเริ่มผาย
ผัน
พึ่ง
ถ้ำ
เศษไม้เศษไร่
ขน
ถู
ขัด
แลพบไฟแพร้ว
ล้ำ
ลุก
โพลง
๐ อิ่มหนำในเนื้อ
สัตว์
สม
บูรณ์
เริ่มแยกเริ่มยก
โขยง
โยก
ย้าย
เหนือใต้ออกตก
ศูนย์
สูตรต่อ
เป็นเผ่าเป็นพื้น
ข้าย
เขตตัว
๐ เสาะหาใบไม้ห่อ หุ้มหนัง
จับคู่เป็นครอบครัว อะคร้าว
ธรรมชาติถูกใช้ยัง ชีพอยู่
ก้าวผ่านละก้าวก้าว เกิดผล
(นาฏกรรมบนลานกว้าง : คมทวน คันธนู)
บ้านกลอนน้อยลิตเติลเกิร์ล
- Black Sword -
(หมู มยุรธุชบูรพา)
•
กลับสู่หน้า
สารบัญ
โคลง
คลิก
•
กระโดดสู่ห้องเรียน
กาพย์
คลิก
•
กระโดดสู่ห้องเรียน
กลอน
คลิก
•
กระโดดสู่ห้องเรียน
ฉันท์
คลิก
•
กระโดดสู่ห้องเรียน
ร่าย
คลิก
•
กระโดดสู่ห้องเรียน
กลอนกลบท
คลิก
•
กระโดดสู่ห้องเรียน
โคลงกลบท
คลิก
•
กระโดดสู่ห้องศึกษา
ภาพโคลงกลบท
คลิก
รายนามผู้เยี่ยมชม :
ลิตเติลเกิร์ล
,
ฟองเมฆ
,
ปลายฝน คนงาม
,
ลมหนาว ในสายหมอก
,
มนชิดา พานิช
,
น้ำหนาว
,
ชลนา ทิชากร
,
ปิ่นมุก
,
ข้าวหอม
,
ขวัญฤทัย (กุ้งนา)
,
กร กรวิชญ์
,
ก้าง ปลาทู
บันทึกการเข้า
..
รวมบทกลอน "
ที่นี่เมืองไทย...
"
รวมบทกลอน "
ร้อยบุปผา
"
รวม
บทประพันธ์ทั่วไป
"Black Sword (หมู มยุรธุชบูรพา)"
รวมบทประพันธ์
กลบท
"Black Sword (หมู มยุรธุชบูรพา)"
รวมบทประพันธ์
ฉันท์
"Black Sword (หมู มยุรธุชบูรพา)"
กลอน
สุภาษิต-คำพังเพย-สำนวนไทย
บ้านกลอนน้อย
ลานอักษร มยุรธุชบูรพา
..
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
บ้านกลอนน้อย ลิตเติลเกิร์ล - มยุรธุชบูรพา
-----------------------------
=> อ่านข้อกำหนด กฎระเบียบต่าง ๆ - สมาชิกใหม่ ทักทาย แนะนำตัวที่นี่
=> ห้องกลอน คุณอภินันท์ นาคเกษม
=> ห้องกลอน คุณคนบอ มือสี่
=> สารบัญกลอน สมาชิกนักกลอน
-----------------------------
ห้องเรียน
-----------------------------
=> ห้องเรียนรู้คำประพันธ์ ประเภทกลอน
=> ห้องเรียนฉันท์
=> ห้องเรียน กลบท
=> ห้องเรียน โคลงกลบท
=> ห้องศึกษา ภาพโคลงกลบท
=> ห้องศึกษา กาพย์ โคลง ร่าย
=> ห้องหนังสือ บ้านกลอนน้อย
=> ห้องฟัง การขับ เสภา และอื่น ๆ
-----------------------------
คำประพันธ์ แยกตามประเภท
-----------------------------
=> กลอน ร้อยกรองหลากลีลา
=> คำประพันธ์เนื่องในโอกาสพิเศษต่าง ๆ
=> กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม
=> กลอนเปล่าสบาย ๆ
=> กลอนจากที่อื่น และจากกวีที่ชื่นชอบ
=> โคลง-กาพย์-ฉันท์-ร่าย-ลิลิต
=> กลบท
=> นิยาย-เรื่องสั้น-บทความ-ความเรียง-เรื่องเล่าทั่วไป
=> ห้องนั่งเล่นพักผ่อน
===> เส้นคั่นสวย ๆ
===> รูปภาพน่ารัก
กำลังโหลด...