☆วะจะเรื่อง กรรมคือ ความต้องการ สุขะชื่น เบิกบาน น่าหลงใหล
รติในศิลป์ ทิวทัศน์ละไม อภิรมย์ ดีใจ ใฝ่ปรีดา
☆สวะเพลิน กามคุณห้าเกิด ธุวยึดมั่นเริด มัดใจหนา
ดุจะใช้ เหยื่อติด เบ็ดล่อปลา มทะครอบ งำพา ความอยากนำ
☆ผิวะได้ มาแล้ว ก็เป็นสุข ผิมิได้ ก็ทุกข์ วนถลำ
กะมะเป็นเหตุ ทุกข์ระกำ ระดะเดือดร้อนซ้ำ อยากครอบครอง
☆"รูปะ"ข้อหนึ่ง เห็นรู้ด้วยตา มนะอยากได้มา เป็นเจ้าของ
ก็สะสมได้ แต่ยังอยากปอง จะแสวง จ้องมอง อยู่ร่ำไป
☆ขณะได้ยิน"เสียง" ในข้อสอง สุตะยินเสียงร้อง พิศมัย
สวนีย์ที่หลงฟังติดใจ ปิยะจิตคลั่งไคล้ จดมากมาย
☆ลุขจร"กลิ่น"ข้อสาม ดอมดม จะยุให้รื่นรมย์ เพิ่มกระหาย
ฤดิปรารถนา ผูกพันกาย นวสิ่งกำจาย หามาเติม
☆ระสะ สี่ "รส" รู้ด้วยลิ้นลอง ก็อร่อย เมื่อพร่อง ต้องหาเสริม
รติยิ่ง ทวี มากกว่าเดิม จะเสาะหา หลงเคลิ้ม เป็นอาจิณ
☆วปุข้อห้า"สัมผัสทางกาย" มุตะเย็นร้อนร้าย กายพสิณ
และกระทบ ทั้งกาย,ใจ,ลิ้นชิน กะจมูก,หูยิน ยลด้วยตา
☆สุขะโสมนัส เพริศอุบัติ ก็เพราะกามคุณชัด อาสา
นรชนไม่อิ่ม จึงเพียรพา บริโภคยิ่งกว่า ไม่ตริตรอง
☆พหุกามติดใจ ความสุขนา ก็อุบัติมา กับคนทั้งผอง
ภวะของมนุษย์โลก จับจอง ก็สวรรค์โลกครอง กรองตามบุญ
☆นรชนจำรับ โทษของกรรม เพราะประพฤติตนต่ำ กายใจหนุน
วจะพร้อม กายใจ เข้าเจือจุน ปะทะโศก วายวุ่น เดือดร้อนครวญ
☆มนะ กาย,วาจา ทุจริต วตะชั่วเสร็จกิจ มิผันผวน
มตะถึง อบาย,นรกควร วินิบาตโทษถ้วน ทรมาฯ|ะ
แสงประภัสสร
กรรมะ=กรรม
กะมะ=กามะ,กาม,ความต้องการ
รูปะ=รูป
ระสะ=รส
พสิณ=ผู้มีอำนาจ,ผู้เชี่ยวชาญ
อบาย=ที่ปราศจากความเจริญ
นรก=ภูมิที่ลงโทษผู้ทำบาป,ที่ที่มีความทุกข์ทรมา
วินิบาต=ภพที่ต้องโทษ,การฆ่า
(ขอบคุณเจ้าของภาพจากอินเทอร์เน๊ต)