ต๋ำนานมูลีขี้โย
การสูบบุหรี่ดูเป็นเรื่องปกติของคนล้านนายุคก่อน
เพราะในสมัยก่อนไม่มีบุหรี่สำเร็จรูป เป็นซองขายแบบสมัยนี้
คนล้านนาทั้งหญิงและชายจะสูบบุหรี่ที่มวนด้วยใบตองกล้วย มวนหนึ่งขนาดเท่านิ้วมือ
และยาวเกือบคืบ ชาวบ้านเรียกบุหรี่ชนิดนี้ว่า "ขี้โย" หรือ "บุหรี่ขี้โย"
ที่นิยมสูบกันมากอาจเนื่องมาจากอากาศหนาวเย็น การสูบบุหรี่คงทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น
ใบที่ใช้มวน คนสมัยก่อนจะใช้ใบตองแห้ง รีดให้เรียบห่อกับยาสูบโรยด้วยขี้โยม้วนเป็นแท่งๆ
แบบบุหรี่สมัยนี้ แต่ขนาดใหญ่และยาวกว่า ทาใบตองให้ติดเป็นแท่งด้วยยางบะปิน (ยางมะตูม)
ขนาดต้องเอายางมะตูมใส่กระปุกไว้ทาอย่างเป็นเรื่องเป็นราวทีเดียว บางครั้งก็เรียกว่าบุหรี่ขี้โย
ใบตองคนเหนือออกเสียงว่า ใบต๋อง บุหรี่ออกเสียงว่าบูรี หรือมูลี
ส่วนขี้โยทำมาจากเปลือกมะขามบดหยาบ เพื่อความสะดวกมักจะใส่ถุงเก็บไว้
ปัจจุบันมีขายตามร้านขายของชำทั่วไป ถุงละบาท ถ้าพ้นรุ่นเก่าไปแล้ว
คาดว่าเจ้าสิ่งนี้คงหายไปตามกาลเวลา เพราะคนรุ่นใหม่สูบบุหรี่สำเร็จรูปกันหมด
แต่บุหรี่ปัจจุบันแพงจะหันมาสูบบุหรี่ขี้โยก็ได้
ในสมัยก่อนใช้เตารีดโบราณ (ใช้ถ่านไฟแดงๆ ) รีดบนใบตองสดให้เรียบและแห้ง
แล้วม้วนเพื่อเก็บไว้ใช้ได้นานๆ ปัจจุบันไม่ทราบทำกันอย่างไร
แต่ว่าก็ยังมีขายอยู่ตามร้านขายของชำตามชนบทเชียงใหม่
ยาสูบนั้น บางคนที่ปลูกยาขายเตาบ่ม ก็จะเก็บใบยามาซอยเป็นฝอยๆ ด้วยเขียงซอยยา
ซึ่งถ้าจะหาดูได้ในสมัยนี้คงจะพอมีอยู่แถวบ้านสบคำ
หลังซอยเสร็จก็จะเอามาผึ่งแดดบนแตะยาให้แห้ง ม้วนเก็บใช้ตอกมัด
เอาไว้สูบเองหรือไม่ก็ขาย
แบ่งเป็นยาขื่น (ฉุน) ได้จากใบยาที่เก็บจากใบที่เก็บจากโคนต้น ยากลาง
คือยาที่เก็บจากใบยากลางๆต้น และยาจาง คือยาที่เก็บจากใบยาส่วนปลายต้น แรกๆ
ใช้ใบตองอ่อน ขยันหน่อยก็เก็บใบตองอ่อนมาใช้ความร้อนจากเตารีดโบราณ(ใช้ถ่าน)
รีดให้แห้งมีกลิ่นหอม ฉีกเป็นแผ่นๆกะพอประมาณให้ใช้พันยาเส้นให้เป็นมวนๆ ได้
บ้างคนก็ใส่ขี้โยด้วย
สมัยนั้นทั้งยาเส้นและขี้โยจะมีขายในตลาด เวลามีงานหรือแขกไปใครมาหาที่บ้าน
อันดับแรกที่จะนำมาต้อนรับ คือ จานใส่เหมี้ยง บุหรี่ ขี้โยและหมาก
แป้หม่าเก่า Ancient Phrae #
อนุรักษ์ สืบสาน ตำนาน ประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม วิถีชีวิต เมืองแพร่
ขอบคุณเรื่องราวอดีต ที่นำมาเล่าสู่คนรุ่นหลังได้รับรู้ค่ะ